“ไพรินทร์” เดินสายอำลากทท. ฝากเร่งเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวนเลือกตั้ง

13 มี.ค. 2562 | 11:42 น.

“ไพรินทร์” เดินสายอำลาหน่วยกทท.ทิ้งทวนเลือกตั้งก่อนรองฯ”สมคิด”เข้าติดตามความคืบหน้าโครงการที่สำคัญในวันพรุ่งนี้ เผยมีโครงการเร่งผลักดันอีกเพียบ ด้าน”กมลศักดิ์” ยันเคาะวันประกาศผลผู้ชนะประมูลแหลมฉบังเฟส 3 วันที่ 11 เม.ย.นี้ เร่งลงนามก่อนเลือกตั้ง

 

นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเข้าประชุมร่วมกับนายสมศักดิ์ ห่มม่วง ประธานกรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กรรมการและคณะผู้บริหารกทท.เพื่ออำลาเนื่องในโอกาสจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่พร้อมกับเช็คเรื่องความพร้อมรองรับกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจเยี่ยมพร้อมติดตามการดำเนินโครงการต่างๆของกทท.ในวันที่ 14 มีนาคม 2562 ว่าเป็นการมาอำลาเป็นหน่วยสุดท้ายเนื่องจากจะมีการเลือกตั้งพร้อมกับขอให้เร่งผลักดันโครงการต่างๆ

“ไพรินทร์” เดินสายอำลากทท. ฝากเร่งเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวนเลือกตั้ง

โดยได้ฝากให้การดำเนินงานโครงการต่างๆ ให้ดำเนินการอย่างรอบคอบ และนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างบูรณาการ และวางเป้าหมายและพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ให้เป็น ท่าเรือแหลมฉบัง 4.0 เพื่อให้สามารถแข่งขันหรือเทียบเคียงท่าเรือชั้นนำระดับโลก  โดยให้แนวทางในการดำเนินงานโดยวางเป้าหมายขององค์กร ให้มีความเข้มแข็ง มองการณ์ไกล และดำเนินงานให้การท่าเรือฯ ก้าวไปสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจชั้น 1 ให้ได้ในอนาคต

“แอร์พอร์ตลิ้งค์คือหน่วยที่มีการพัฒนาการอย่างเห็นได้ชัด เพียงกว่า 1 ปีก็สามารถโชว์ศักยภาพเพื่อจะเข้าไปรับผิดชอบบริหารจัดการรถไฟสายสีแดงได้อย่างมั่นใจ รถไฟสามารถวิ่งให้บริการได้ครบ 9 ขบวนเช่นเดิม ปัจจุบันผู้โดยสารใช้บริการสูงถึง 8.5 หมื่นคนต่อวัน ดังนั้นจึงต้องการให้กทท.ก้าวสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจที่ดีมีความมั่นคง เข้มแข็งในด้านการเงิน มีระบบบริหารจัดการที่ดี รับผิดชอบต่อสังคม”

“ไพรินทร์” เดินสายอำลากทท. ฝากเร่งเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวนเลือกตั้ง

ด้านร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.) กล่าวว่าจากกรณีที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กทท.หาแนวทางเชื่อมโยงการขนส่งสินค้ากับกลุ่มประเทศ BIMSTEC ที่ประกอบด้วยบังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกาและเมียนมา เป็นต้นนั้นขณะนี้ได้ส่งบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่ในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเจรจาข้อตกลงทางการขนส่ง คาดว่าภายในกันยายนนี้จะสามารถลงนามบันทึกความร่วมมือ(MOU) กับ 3 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย บังกลาเทศและศรีลังกา โดยจะเชื่อมการขนส่งสินค้าจากท่าเรือระนองไปยังท่าเรือใน 3 ประเทศดังกล่าวได้แก่ เมืองเชนไน อินเดีย เมืองจิตตะกอง บังกลาเทศ และเมืองโคลัมโบ ศรีลังกา ซึ่งแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์ดังกล่าวนั้นจะช่วยส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ในอนาคตผ่านการเชื่อมโยงสินค้าระหว่างฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน โดยรถไฟทางคู่เส้นทางชุมพร-ระนอง

“ไพรินทร์” เดินสายอำลากทท. ฝากเร่งเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวนเลือกตั้ง

สำหรับความคืบหน้าโครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ขั้นที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุนกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ร.ท.กมลศักดิ์กล่าวว่า จากการประกาศเชิญชวนการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนในโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม-8 กุมภาพันธ์ 2562 พบว่า มีเอกชนสนใจเข้าร่วมซื้อซองเอกสารประกวดราคาทั้งสิ้น 34 ราย โดยกำหนดให้มายื่นซองในช่วงเช้าวันที่ 29 มีนาคมนี้ โดยจะเปิดซองในช่วงบ่าย และในวันที่ 11 เมษายนนี้จะสามารถสรุปเอกชนที่มีสิทธิ์รับสัมปทานในโครงการดังกล่าว หลังจากนั้นจะเสนอไปยังคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)รับทราบต่อไป

“ไพรินทร์” เดินสายอำลากทท. ฝากเร่งเมกะโปรเจ็กต์ทิ้งทวนเลือกตั้ง