ขณะที่ การเจรจาเพื่อแก้ปัญหาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาเริ่มมีเค้าคลี่คลาย และกำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย ก่อนที่ผู้นำทั้ง 2 ฝ่าย จะพบกันอีกครั้งปลายเดือนนี้ แต่กรณีความเป็นปฏิปักษ์ระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตอุปกรณ์การสื่อสารโทรคมนาคมของจีน ที่สร้างบรรยากาศความตึงเครียดระหว่างประเทศมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ยังไร้วี่แววจะคลี่คลาย โดยนอกจากสหรัฐฯ เองจะคว่ำบาตรหัวเว่ยไม่ให้หน่วยงานรัฐบาลและโครงการภาครัฐใช้อุปกรณ์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทจีนรายนี้แล้ว สหรัฐฯ ยังดำเนินการทุกวิถีทาง ทั้งโน้มน้าวและกดดันให้ประเทศอื่น ๆ ที่เป็นพันธมิตร ร่วมมือกับสหรัฐฯ สกัดทางและจำกัดโอกาสการขยายตัวของเทคโนโลยีหัวเว่ยไปทั่วโลก
ล่าสุด (12 มี.ค.) สหรัฐฯ ได้กดดันเยอรมนีให้ร่วมสกัดเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ยฯ โดยสื่อใหญ่ อย่าง เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า นายริชาร์ด เอ. เกรนเนลล์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในเยอรมนี ได้ยื่นจดหมายต่อ นายเพเทอร์ อัลท์ไมเออร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนี เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า ถ้าหากบริษัทของจีน เช่น หัวเว่ยฯ ได้รับโอกาสเข้ามาช่วยวางระบบโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีการสื่อสารความเร็วสูงระดับ 5G ก็เป็นไปได้ว่า ในอนาคต หน่วยงานของสหรัฐฯ ก็อาจจะไม่สามารถแบ่งปันข่าวสารข้อมูลเชิงลึก หรือ ข้อมูลข่าวกรองกับรัฐบาลเยอรมันได้มากเท่ากับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
ไม่เพียงเยอรมนีเท่านั้น สหรัฐฯ มีความพยายามเชิญชวนรัฐบาลหลายประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ อาทิ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อิตาลี และญี่ปุ่น ให้คว่ำบาตรการใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยีของหัวเว่ยฯ ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมยุคใหม่ที่มีความเร็วสูงและประสิทธิภาพระดับ 5G โดยอ้างเหตุผลว่า บริษัท หัวเว่ยฯ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก มีสายสัมพันธ์โยงใยใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นช่องทางให้รัฐบาลจีนใช้เป็นเครื่องมือในการล้วงข้อมูลลับจากรัฐบาลประเทศอื่น ๆ
นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หัวเว่ยฯ ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และย้ำว่า หัวเว่ยฯ จะไม่ทำสิ่งใดที่เป็นภัยคุกคามผลประโยชน์ของลูกค้า ซึ่งจะเป็นการทุบหม้อข้าวของบริษัทเองด้วย นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทยังได้ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีห้ามหน่วยงานรัฐบาลจัดซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมของหัวเว่ยฯ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ เอง
ทั้งนี้ ข่าวระบุว่า นายอัลท์ ไมเออร์ รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเยอรมนีได้รับจดหมายจากเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นเพียง 1 วัน เยอรมนีได้ประกาศว่า ไม่ต้องการที่จะตัดสิทธิ์ของหัวเว่ยฯ ในการเข้าร่วมโครงการโดยสิ้นเชิง ขณะเดียวกัน เยอรมนีเองมีแผนจะปรับแก้กฎหมายให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อจะสร้างความมั่นใจได้ว่า อุปกรณ์ทุกชิ้นที่นำมาใช้ในโครงการยกระดับเครือข่าย 5G ภายในประเทศเยอรมนีนั้น มีความปลอดภัยในระดับสูงสุด