อุตฯไล่บี้ 1.4 แสนโรงงาน สร้างศก.แบบหมุนเวียน ลดต้นทุนดูแลสิ่งแวดล้อม

13 มี.ค. 2562 | 08:32 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

กรอ.ไล่บี้โรงงาน 1.44 แสนราย เข้าสู่เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน ให้เกิดการใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น นำกลับมาใช้ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน จากต้นทุนที่ลดลง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ คาดมีผลบังคับปลายปีนี้ ยันยกเลิก รง.4 สร้างความโปร่งใสในการต่อใบอนุญาต

นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา”ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทย ในอนาคต” ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การดำเนินงานของกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) ได้มีการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมสู่ Factory 4.0 ภายใต้แนวคิด Circular Economy หรือเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน  เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็น และมีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การบริโภค การจัดการของเสีย ตลอดจนการนำกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบใหม่

นายสมชาย หาญหิรัญ

โดยกรอ.จะให้ความสำคัญในการดำเนินงานครอบคลุม 4  ด้าน ได้แก่ การผลิต จะเป็นการส่งเสริมการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม และการพัฒนากระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสู่นวัตกรรมการรออกแบบตลอดห่วงโซ่ของผลิตภัณฑ์  การบริโภค เป็นการส่งเสริมให้นำกลับมาใช้ซ้ำ และการลดการใช้หรือใช้น้อยเท่าที่จำเป็นตลอดจนมีข้อมูลของผลิตภัณฑ์ การจัดการของเสีย เป็นการปรับปรุงขั้นตอนการจัดการของเสีย และการลงทุนการจัดการของเสียระยะยาว และการใช้วัตถุดิบรอบ 2 หรือการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่ โดยการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบรอบ 2 หรือการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ หากโรงงานที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 1.44  โรงงาน สามารถดำเนินการเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนได้ ภายใต้การขับเคลื่อนของกรอ.ได้ จะเป็นการช่วยให้โรงงานอุตสาหกรรมติบโตได้อย่างยั่งยืน ช่วยลดปริมาณของเสียจากโรงงาน ที่มีกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพต่ำ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรคุ้มค่า และเป็นการเพิ่มศักยภาพความสามารถในการแข่งขันได้ด้วย เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตที่ต่ำลง

อุตฯไล่บี้ 1.4 แสนโรงงาน สร้างศก.แบบหมุนเวียน ลดต้นทุนดูแลสิ่งแวดล้อม

นายสมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับการแก้ไขพ.ร.บ.โรงงานอุตสาหกรรม ที่ผ่านมาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ไปแล้วนั้น คาดว่าในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2562 พ.ร.บ.ฉบับใหม่น่าจะมีผลบังคับใช้ ซึ่งได้แก้ไขนิยามโรงงานที่อยู่ในการกำกับดูแลใหม่ จากเดิมกำหนดให้โรงงานที่มีเครื่องจักรตั้งแต่ 5 แรงม้า มีแรงงาน 7 คนขึ้นไปต้องมาขึ้นทะเบียนขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือ รง.4 กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะปรับเปลี่ยนใหม่เป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรตั้งแต่ 50 แรงม้า และแรงงาน 50 คนขึ้นไป ถึงจะมาขอใบอนุญาตตั้งโรงงาน

โดยจะส่งผลให้โรงงานในการกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรมจาก 1.44 แสนโรงงาน ลดลงราว 50 % หรืออยู่ในความดูแลประมาณ 8 หมื่นโรงงาน และโรงงานเหล่านี้ตาม พ.ร.บ.โรงงงานแก้ไขใหม่ไม่จำเป็นต้องยื่นเรื่องขอต่อใบอนุญาต รง.4 ทุก 5 ปี เพราะเปลี่ยนระบบใหม่มาเป็นการรับรองตนเองแทน โดยมีบุคคลที่ 3 ตรวจรับรอง

อุตฯไล่บี้ 1.4 แสนโรงงาน สร้างศก.แบบหมุนเวียน ลดต้นทุนดูแลสิ่งแวดล้อม

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) กล่าวว่า การกำกับดูแลโรงงานตามแนวทางการรับรองตนเองของโรงงาน มาตรการนี้จะส่งผลดีและชัดเจนแบบ 2 เพิ่ม 2 ลด คือ 1.เพิ่มความสะดวกผู้ประกอบการ 2.เพิ่มประสิทธิภาพการบริการของภาครัฐ และ 1.ลดระยะเวลาการทำเรื่องขอใบอนุญาตแบบเดิม 2.ลดปัญหาข้อร้องเรียนสร้างความความโปร่งใสในกระบวนการต่อใบอนุญาต  ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงคือผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศ อีกทั้งยังช่วยสร้างความสนใจดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกมาลงทุนเพิ่มในประเทศไทยได้มากขึ้น ขณะที่การกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ก็ยังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องดูและควบคุมอยู่

อุตฯไล่บี้ 1.4 แสนโรงงาน สร้างศก.แบบหมุนเวียน ลดต้นทุนดูแลสิ่งแวดล้อม