“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ

13 มี.ค. 2562 | 07:49 น.

“ซีอาร์จี” สบช่องทุ่ม 2,000 ล้านบาทเดินเครื่องรุกตลาดครบวงจร ทั้งสยายปีกกว่า 120-130 สาขา ปูพรมกิจกรรมการตลาดครบวงจร ล่าสุดผุด 2 แบรนด์น้องใหม่ “อร่อยดี” (Aroi Dee) และ “สุกี้เฮาส์” (Suki House) เจาะตลาดต่อเนื่อง

นายณัฐ วงศ์พานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี เปิดเผยถึงทิศทางขยายธุรกิจในปีนี้ว่า บริษัทเร่งเดินหน้ารุกสมรภูมิธุรกิจร้านอาหาร โดยเตรียมใช้งบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาทในการลงทุนรุกตลาดร้านอาหารอย่างครบวงจร แบ่งเป็น งบประมาณการขยายสาขา 120-130 สาขา 730 ล้านบาท งบประมาณการรีโนเวตสาขา 250 ล้านบาท การลงทุนในส่วนของเทคโนโลยีและไอที 330 ล้านบาท อื่นๆ 100 ล้านบาท และสุดท้ายกับงบประมาณการตลาดแบบครบวงจร 600 ล้านบาททั้งนี้ได้กำหนดแผนงาน Let’s Make The Jump ต่อยอดจากปีที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงจากแผนงาน  Let’s Success Together สามารถผลักดันรายได้เติบโตรายได้สูงประมาณ 10% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจร้านอาหารเครือข่าย ซึ่งเติบโตเพียง 4-5% เป็นผลจากการเร่งขยายสาขา ความสำเร็จในออกสินค้าใหม่ การพัฒนาบริการและการทำการตลาดเพิ่มยอดขาย

“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร  สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ

โดยในส่วนของบริษัทเองได้ตอกย้ำการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง หวังเติบโตแบบก้าวกระโดด เน้นกลยุทธ์ Transform from Operator to Innovator – นอกเหนือจากการเป็นผู้รับสิทธิ์บริหารแฟรนไชส์แล้ว ยังมุ่งมั่นพัฒนาแบรนด์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ พัฒนา new product line เพื่อสร้างยอดขาย และเพิ่มโอกาสการบริโภคใหม่ๆ และพัฒนารูปแบบร้านค้าใหม่ๆ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เช่น ร้านค้าขนาดเล็กสไตล์คาเฟ่และร้านสไตล์ Mobile unit ที่เข้าถึงลูกค้าง่ายขึ้นและเคลื่อนย้ายตามจุดทำเลที่มีศักยภาพได้ตลอดเวลา

“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร  สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่  2 แบรนด์  คือ แบรนด์ “อร่อยดี” (Aroi Dee) และ “สุกี้เฮาส์” (Suki House) โดย “อร่อยดี” เป็นแบรนด์ร้านอาหารไทยตามสั่งที่มีจุดขายคือ สะอาด-สดจากเตา-เย็นสบาย-ในราคาที่เข้าถึงได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 59 บาท โดยลูกค้าสามารถรับประทานที่ร้าน สั่งกลับบ้านหรือใช้บริการดีลิเวอรี่ได้ ล่าสุด ร้านอร่อยดีเปิดแล้ว 3 สาขาที่สีลมซอย 32, ปั้ม ปตท. สายไหม และ ไทวัสดุ บางนา  ซึ่งซีอาร์จีมีแผนขยายอย่างน้อย 10 สาขาในปีนี้ โดยหวังให้ร้านอร่อยดี เป็นทางเลือกให้ลูกค้าสามารถทานอาหารที่อร่อย สะอาด คุ้มค่า ได้ทุกวัน และมีแผนเปิดขายแฟรนไชส์ เพื่อเร่งเครื่องปูพรมสาขาภายในปีนี้ด้วย

“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร  สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ

            ด้านแบรนด์“สุกี้เฮาส์” เป็นแบรนด์ที่ต้องการสร้างความแตกต่างในตลาดร้านสุกี้  เน้นบรรยากาศความสนุกสนานให้กลุ่มลูกค้า เพื่อฉีกแนวการกินสุกี้แบบเดิมๆ โดยจะประเดิมเผยโฉมสาขาแรกในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะปลุกความตื่นเต้นให้ตลาดและกลุ่มลูกค้าที่นิยมอาหารแนวสุกี้ นอกจากนั้น มีแผนเปิดแบรนด์ใหม่อย่างน้อย 2-3 แบรนด์ ทั้งรูปแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการหาพาร์ทเนอร์รายย่อย เพื่อนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาร่วมกันสร้างกิจการร้านอาหารแนวใหม่ๆ ขณะเดียวกัน ในตลาดต่างประเทศ ซีอาร์จีกำหนดยุทธศาสตร์การสร้าง “ฮับ” เจาะตลาดอาเซียน โดยเน้นการขยายเชนร้านอาหารเจาะกลุ่มตลาดกลางและตลาดแมส ภายใต้แบรนด์กลุ่มร้านอาหารไทยและเปิดขาย   แฟรนไชส์แบรนด์ที่มีศักยภาพ รวมถึงการ M&A กับแบรนด์ในประเทศนั้นๆ เพื่อเป็นรากฐานต่อยอดธุรกิจ

“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร  สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 2562 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งรายได้และกำไร อัตราเติบโตมากกว่า 12% จากปี 2561 ที่มีอัตราการเติบโตของรายได้ประมาณ 10% และตั้งเป้าซีอาร์จีจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 9% ของตลาดเซกเมนต์ร้านอาหารเครือข่ายหรือ Food Chain ที่มีมูลค่ามากกว่า 140,000 ล้านบาท

“เซ็นทรัล” ขนนวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจอาหาร  สยายปีก 130 ร้านทั่วประเทศ

ด้านนายปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสฝ่ายการตลาด ซีอาร์จี กล่าวว่า บริษัทจะรุกขยายบริการ Multi-brand Delivery เต็มรูปแบบ หลังเปิดตัวบริการใหม่ “1312 สั่งครั้งเดียว อร่อยหลายร้าน” จัดส่งมื้ออร่อยให้ลูกค้าจากแบรนด์ร้านอาหารในเครือซีอาร์จีทั้ง 11 แบรนด์ ในการสั่งอาหารเพียงครั้งเดียวและจ่ายค่าบริการจัดส่งเพียงครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การขายเหนือคู่แข่งในตลาด โดยปีนี้จะขยายเข้าสู่ช่องทาง Omni Channel  ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากร้านอาหาร ทั้งกลุ่มซีอาร์จี รวมถึงการจองร้านอาหาร และออเดอร์ต่างๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น “CRG 1312” คาดจะเปิดให้บริการภายในเดือนเมษายนนี้ ขณะเดียวกันจะพัฒนาฟอร์แมทใหม่ที่เรียกว่า Online Virtual Stores รวมแบรนด์ร้านอาหารสไตล์สตรีทฟู้ดชื่อดัง  เพื่อเพิ่มความหลากหลายและสร้างความแตกต่างในตลาด โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารผ่านแอพลิเคชั่นได้ และเตรียมเปิดแพลตฟอร์มใหม่  Hub Model เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริการดีลิเวอรี่ สร้างจุดแข็ง ตอบรับตลาดดีลิเวอรี่ที่เติบโตสูงในขณะนี้