"เสี่ยป๋อง" ชี้! หมดยุคเล่นพอร์ตใหญ่

| สัมภาษณ์พิเศษ : วัชระ แก้วสว่าง เซียนหุ้นเทคนิคพันล้านบาท

……………….

นายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง เซียนหุ้นเทคนิคพันล้านบาท ต่อมุมมองการลงทุนในตลาดหุ้นไทย หลังจากต้นปีถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาแล้วกว่า 4% อีกทั้งปัจจัยภายนอกเริ่มสู่ทิศทางเป็นบวกมากขึ้น และไทยจะมีการเลือกตั้งเดือนนี้

"2 ปีมานี้ ผมท้อเหมือนกัน อย่างปีที่แล้ว ผมขาดทุนไป 10% เท่ากับตลาดหุ้นไทยที่ลงเล่นมาสิบกว่าปีไม่เคยโดน คือ อย่างมากก็เสมอตัว ปีที่แล้วทำผมเป๋ เสียเซลฟ์เลย ดีที่ปีนี้ก็ยังได้คืนบ้าง อย่าง ตลาดบวก 4-5% ผมติดลบ 0% ถือว่าเป็นการเตือนนักลงทุน เพราะทุกคนบอกว่าไม่ง่ายเลย

สิ่งที่ผมติดตามยังมองปัจจัยในประเทศเป็นหลัก ไม่ได้กลัวเรื่องการเมือง แต่มองว่า หุ้นไทยปรับขึ้นมาเยอะแล้ว นับตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว ถึงวันนี้ขึ้นไปกว่า 380 จุด ตลาดเล่นยาก ต้อง Selective ให้มาก ๆ เล่นเป็นรอบ ๆ แต่ผมก็ยังมีความหวังว่า หลังเลือกตั้งหุ้นไทยจะปรับขึ้น"


⇲ วัชระ แก้วสว่าง


เสี่ยป๋อง กล่าวว่า กลยุทธ์ลงทุน เขาเปลี่ยนมาเล่นยาวขึ้น สูตร คือ 80% จะกันไว้ซื้อหุ้นที่ถูกใจ และถือไว้ 3-6 เดือน ส่วนอีก 20% จะเป็นเงินหมุนเวียน เล่นช่วงสั้น ๆ แต่เวลานี้ ส่วนที่เป็น 80% ยังไม่มีหุ้นในดวงใจที่รอหาเลย หุ้นพื้นฐานตัวใหญ่ที่ชอบก็มีอัพไซด์เพียง 10-15% ไม่คุ้มเสี่ยง และที่เหลือ 20% ก็เล่นสั้น แต่พอเล่นสั้นก็ไปไม่รอด ต่อไปการเล่นจะยากขึ้น ยิ่งพอร์ตใหญ่ เพราะความคล่องตัวไม่มี เป็นยุคของเด็กแว้นโดยแท้จริง คือ เข้าได้ทุกซอย แต่เราเป็นรถบรรทุกขับเข้าไปก็เจอแต่ซอยตัน

"ผมเป็นคนแอนตี้การให้มีการชอร์ต (ขาย) ที่มีการยืมมาช็อต เพราะมันทำให้ตลาดลงผิดปกติ มันกลายเป็นบ่อน วันก่อนผมคุยกับโบรกเกอร์ที่อยู่ในวงการฝรั่ง บอกว่า คนไทยเดี๋ยวนี้เล่นโหดมาก คือ ถ้าเขามองหุ้นลง เขาช็อตทันที หุ้นบางตัวผิดสังเกต เป็นหุ้นความสวยความงาม มีการยืมมาช็อตเป็น 100 ล้านหุ้น แล้วกระทืบ ทำให้หุ้นร่วงเกินกว่าเหตุ ลงเกินปัจจัยพื้นฐาน หรือ หุ้นบริษัทสื่อสารก็มีการยืมหุ้นมาช็อตและเป็นการชอร์ตผ่านบลอกเทรด คือ วางเงิน 1 บาท ชอร์ตได้ถึง 15 บาท เทคนิคัลแปลกใหม่ ทุกวันนี้มีเยอะ อย่างบลอกเทรด คุณห้ามเข้าห้องนํ้าเลย เข้าทีชีวิตเปลี่ยน (หัวเราะ)" นักเซียนหุ้นเทคนิคพันล้าน กล่าวและว่า

การที่ผมยังมีทุกวันนี้ เพราะผมรอดจากวิกฤติ ตอนซับไพร์ม ผมถือเงินสดทั้ง 100% ฉะนั้น ตลาดหุ้นลงมาจึงไม่กระทบ และหุ้นที่ทำกำไรได้ต้องถือเป็น 1-2 ปี แต่ตอนนี้ ถือเงินสด 80% และอีก 20% ยังติดอยู่ในซอยตัน หนึ่งในนั้น ก็คือ หุ้น WEH (บมจ.วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง) ผมติดอยู่ 100 ล้านบาท (สัดส่วน 0.2%) ซื้อที่ต้นทุนหุ้นละ 400 บาท ก่อนที่ 4 เดือนต่อมา ราคาจะปรับขึ้นไปที่หุ้นละ 570-600 บาท ตอนนี้กลายเป็นมหากาพย์ ยอมรับว่า กลัวจะสูญจริง ๆ

เสี่ยป๋องยังให้คำแนะนำว่า ถ้าดัชนีหุ้นไทยตํ่ากว่ารอบที่แล้ว ที่ 1550 จุด หลุดจากนั้นนั้นถือว่าไม่ดี นักลงทุนควรจะต้องออกมาประเมินใหม่


หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,452 วันที่ 14-16 มีนาคม 2562