Allianz ลุยตลาดสุขภาพเล็งขึ้นเบอร์2 ปี64

14 มี.ค. 2562 | 08:40 น.

อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิตเขย่าโครงสร้างองค์กร เตรียมใส่เกียร์ลุยตลาดประกันสุขภาพตั้งเป้าปี 2564 ขึ้นแท่นอันดับ 2 ของตลาด ด้วยเบี้ยแตะ 7 พันล้านบาท ก่อนขยับเป็นผู้นำตามแผน 7 ปี มุ่งสู่ดิจิทัล ดันตัวแทนเป็นช่องทางหลัก พร้อมมองโอกาสทำ M&A

นายไบรอัน สมิธ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด(มหาชน)เปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร โดยแยกทีมงานให้ชัดเจนขึ้นระหว่างประกันสุขภาพและประกันชีวิต เพราะมองว่า ประกันสุขภาพ(Health)จะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตในอนาคตอีก 3-5 ปี ส่วนหนึ่งมาจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย ขณะที่อัตราค่ารักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ย 12% แต่สัดส่วนการถือครองประกันสุขภาพยังมีไม่ถึง 10% ของประชากรทั้งหมดจึงมีโอกาสเติบโตได้อีก

Allianz ลุยตลาดสุขภาพเล็งขึ้นเบอร์2 ปี64  

ทั้งนี้บริษัทต้องการเป็นผู้นำในตลาดประกันสุขภาพและตามมาด้วยประกันชีวิต โดยเป้าหมายระยะสั้นภายในปี 2564 ต้องการขยับสัดส่วนขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดประกันสุขภาพ โดยต้องมีเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท หรือมีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ 6-7 พันล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดที่มีเบี้ยอยู่ที่ราว 4,500 ล้านบาท และเป้าหมายระยะยาวต้องการขึ้นเป็นผู้นำในตลาดประกันสุขภาพภายใน 7 ปี หรือภายในปี 2568 โดยเบี้ยรับนอกจากต้องขยายตัวเป็น 2 เท่าแล้ว จะต้องเติบโตผ่านการควบรวมกิจการ (M&A)รวมถึงดึงธุรกิจประกันภัยหรือ Non life เข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายด้วย  

“ปีนี้เราตั้งเป้าประกันสุขภาพเติบโต 20% จากภาพรวมตลาดที่คาดว่าจะขยายตัว 10% โดยการเติบโตจะมาจากช่องทางตัวแทนที่จะขยับสัดส่วนจาก 40% เป็น 42.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ภาพรวมตลาดขยายตัวเพียง 10% แต่เราสามารถขยายการเติบโตสูงกว่าตลาดอย่างต่อเนื่อง” 

ภายใต้แผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ 7 ปีนั้น ขั้นตอนกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ (End to End) จะต้องไม่มีกระดาษหรือเป็น Paperless ทั้งหมด โดยช่องทางตัวแทนจะเป็นช่องทางหลักสำคัญ แต่จะต้องมีเทคโนโลยีหรือดิจิทัลเข้ามาช่วยให้ตัวแทนสามารถขายและบริการลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่า อัตราการเติบโตผ่านตัวแทนของบริษัทสูงถึง 13% จากภาพรวมตลาดที่ไม่เติบโตเลย ปัจจุบันมีตัวแทน 1.1 หมื่นคน โดยเป็นตัวแทนใหม่ราว 5,000 คน แต่ความท้าทายคือ การให้ตัวแทนสามารถทำงานและมีผลงานสมํ่าเสมอ (แอกทีฟ) จึงมีแคมเปญสร้างตัวแทนทำงานเต็มเวลาผ่านการให้แรงจูงใจ (Incentive)ซึ่งปีก่อนสามารถสร้างตัวแทนที่ทำงานเต็มเวลาได้ 200 คน และปีนี้มีเป้าหมายจะเพิ่มอีก 300 คน

“ตอนนี้ตลาดประกันภัยทำได้ยากขึ้นหรือรูปแบบการทำธุรกิจจะต้องเปลี่ยนแปลงไป จะต้องมีพันธมิตรเข้ามา ซึ่งเราก็มองหาโอกาสควบรวมอยู่เสมอขึ้นกับจังหวะและโอกาส เช่น เรามีดีลกับฟิลิปปินส์ จีนก็ร่วมกับ
เจดีดอทคอม หรือเวียดนามจับมือกับดิจิทัลฟินเทค” 

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,452 วันที่  14 - 16 มีนาคม พ.ศ. 2562

Allianz ลุยตลาดสุขภาพเล็งขึ้นเบอร์2 ปี64