'ประยุทธ์' ย้ำ! ระวังตัวหาเสียง ขอบคุณโพลหนุน

12 มี.ค. 2562 | 10:06 น.

"บิ๊กตู่" ย้ำ! ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ แต่ต้องระมัดระวังว่าทำได้แค่ไหน ชี้! ไม่อยากขัดแย้ง หรือ เกิดฟ้องร้องในอนาคต ขอบคุณประชาชนที่หนุนให้เป็นนายกฯ ต่อ
 

'ประยุทธ์' ย้ำ! ระวังตัวหาเสียง ขอบคุณโพลหนุน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะการลงพื้นที่ไปช่วยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หาเสียง ก่อนการปราศรัยใหญ่ ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ระบุว่า สามารถทำได้ แต่ได้เน้นย้ำให้ระมัดระวัง ซึ่งตนเองก็ต้องระวังด้วย ขณะเดียวกัน ทุกคนก็ทำงานตามหน้าที่ของตนเองอยู่แล้ว แต่ส่วนตัวในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคฯ ซึ่งเป็นตัวเลือก ก็ต้องพิจารณาตนเอง ว่า ทำอะไรได้แค่ไหน เพราะไม่อยากให้มีข้อขัดแย้ง หรือ การฟ้องร้องในอนาคต จึงต้องลดลาวาศอกกันในช่วงนี้บ้าง

อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ไปพบปะประชาชนในฐานะนายกรัฐมนตรี ทุกโอกาสตนเองก็อยากไป ซึ่งที่ผ่านมา อาจจะเก็บเนื้อเก็บตัวบ้าง เพราะไม่อยากเป็นภาระในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย หรือ การใช้ยานพาหนะต่าง ๆ ที่มากเกินไป เพราะไปที่ไหนประชาชนก็รู้จักตนเองหมด จึงไม่อยากทำให้วุ่นวาย ซึ่งเป็นเรื่องที่วางตัวลำบาก แต่ตนเองไม่ได้ถือตัว เพราะไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างอยู่แล้ว และพยายามทำทั้งวันนี้และวันต่อ ๆ ไปข้างหน้า หากมีโอกาส

ทั้งนี้ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ จะมีคำแนะนำอย่างไรเมื่อถึงเวลาจัดตั้งรัฐบาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีกฎหมายระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่แล้ว ขอเพียงว่า ใครก็ตามที่เป็นนายกรัฐมนตรีต้องทำหน้าที่ตามกฏหมาย ตามอำนาจในการบริหารที่มีธรรมาภิบาล แต่ต้องขอความร่วมมือจากทุกคนที่ร่วมรัฐบาลขอให้ช่วยกันปฏิรูปประเทศ และปฏิรูปทางการเมืองให้ประชาชนไม่เกิดความขัดแย้ง หรือ แบ่งฝ่ายกัน เพราะทั้งหมด คือ คนไทย จึงขอให้ช่วยกันพิจารณาให้ดี ทำอย่างไรถึงได้รัฐบาลที่ดีและมีเสถียรภาพ และเชื่อว่า ประชาชนวันนี้หวังว่าทำอย่างไรหลังเลือกตั้งประเทศชาติจะสงบสุข มั่นคง และเศรษฐกิจดีขึ้น

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงโพลที่สนับสนุนให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป ว่า ขอบคุณประชาชนที่สนับสนุน และอยากทราบว่า โพลที่ออกมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เพราะเห็นว่า โพล ก็คือ โพล คำถามและคำตอบก็เป็นไปตามที่ได้ทำไว้ แต่ขอบคุณที่ทุกคนมีจิตปรารถนาที่ดี ซึ่งมีจำนวนมากอยู่พอสมควร

นายกรัฐมนตรียังชี้แจงภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย ว่า เป็นตัวตนที่แท้จริง แต่เวลาทำงานจะเป็นคนจริงจัง ทำให้ไม่มีรอยยิ้ม แต่เวลาส่วนตัวอยู่กับเพื่อนฝูงและครอบครัวเป็นคนตลก ซึ่งตนเองสามารถเป็นคนตลกหรือซีเรียสก็ได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่ อาจเครียดไปบ้าง ขอให้เห็นใจตนเองและยอมรับ ว่า สิ่งที่ทำให้เกิดความเครียด คือ การทำงานที่มีปัญหาและไม่สามารถแก้ไขให้จบได้ จึงขอให้เข้าใจด้วย และย้ำว่า ตนเองเป็นคนอารมณ์ดี หัวเราะยิ้มง่าย ยกเว้นสื่อมวลชนจะสร้างภาพลักษณ์ให้ตนเองอย่างไร เพราะชอบเสนอภาพตนเองหงุดหงิด หรือ ชี้นิ้วสั่ง ทำให้ถูกมองว่าเป็นเผด็จการ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสรรหาสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ว่า การคัดกรองทั้งในส่วนของเลือก ส.ว. เลือกกันเองจากจำนวน 200 คน คสช. จะเลือกให้เหลือ 50 คน และผู้ที่มาจากการสรรหาของคณะกรรมการสรรหา 400 คน คสช. จะเลือกให้เหลือ 200 คน ซึ่งทั้งหมดจะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติ ว่า มีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะ ส.ว. มีข้อจำกัดมากมาย บางคนส่งชื่อมา แต่ยังมีคดีความ หากผ่านขึ้นมาจะทำอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบต่อไป อย่างไรก็ตาม การคัดเลือก ส.ว. มาจากหลายส่วน ทุกคนมีสิทธิเสนอมา แต่ทุกคนก็ต้องถูกตรวจสอบคุณสมบัติเช่นกัน ว่า มีคดีหรือไม่ มีพฤติกรรมส่วนตัวเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมา เราเคยมีทั้ง ส.ว.เลือกตั้ง และ ส.ว.คัดสรร มาโดยตลอด แต่ขอให้ลองดูว่า การมี ส.ว. ที่เลือกกันเอง ทุกอย่างดีหรือไม่ เพียงแต่ตอบคำถามว่า นี่คือ ประชาธิปไตย แต่หากได้คนไม่ดีมาอยู่ในสภา แบบนั้นจะน่ากลัวกว่า ตรงนี้อย่างน้อยก็สร้างความร่วมมือไปก่อนในช่วง 5 ปีแรก ซึ่งในระหว่างนี้ หากอะไรดีขึ้น ก็ลดไปเรื่อย ๆ รัฐบาลต่อไปก็สามารถลด ส.ว.สรรหา ลงได้ หากเห็นควร ไม่เช่นนั้น ทุกคนจะอ้างเพียงแต่ประชาธิปไตย แต่หากเป็นประชาธิปไตยที่ซื่อสัตย์อย่างแท้จริง ก็ไม่มีปัญหาที่จะเลือกหรือคัดสรร หากทุกคนสำนึกในบุญคุณของประเทศไทย

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ส่วนตัวไม่อยากให้ฟังสิ่งที่บิดเบือนกันมากนัก เพราะช่วงการเลือกตั้งอาจจะหาว่าตนเองไปก้าวล่วงคนอื่นได้ แต่คนอื่นก้าวล่วงตนเองกลับไม่มีใครสนใจ ขอให้เห็นใจกันบ้าง

'ประยุทธ์' ย้ำ! ระวังตัวหาเสียง ขอบคุณโพลหนุน