"พปชร." เปิดตัวทีมงานเพื่อฐานราก ชูชุมชนตำบลจัดการตนเอง
'กอบศักดิ์' จับมือ "ชวน ชูจันทร์" เปิดตัว "คณะทำงานเพื่อฐานราก" ชูแนวทางชุมชนตำบลจัดการตนเอง
วันที่ 12 มี.ค. 2562 "แกนนำเครือข่ายเพื่อฐานราก" ได้เข้าสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมหารือนโยบายร่วมกับ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค และนายชวน ชูจันทร์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ และผู้พลิกฟื้น "คลองลัดมะยม" จากคลองที่เต็มไปด้วยขยะเป็นตลาดนำ้แหล่งท่องเที่ยวและจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรที่เป็นที่รู้จักของชาวไทยและต่างชาติ
โดยได้เปิดตัวคณะทำงาน อาทิ นายอำนวย จั่นเงิน ประธานสภาวัฒนธรรม จ.ลพบุรี, นายหนึ่งแก่น บุญรอด อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และอดีตผู้อำนวยการมูลนิธิแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง, นายกิตติพงศ์ บุญยิ่ง อดีตผู้ช่วยผู้อํานวยการธนาคารออมสิน สายงานลูกค้าฐานราก, นายแสนหล้า พันธุ์ราดล พิธีกรรายการฅนธรรมทาง, นายพายัพ ยังปักษี เลขาธิการสมาคมชาวนาและโรงสีข้าวไทยและเลขาธิการสภากัญชาแห่งประเทศไทย, นายปรีชัย นามสีมา, ประธานวิสาหกิจโฮมสเตย์เสลี่ยงแห้ง, นายพูนศักดิ์ พรรณศิลป์ ประธานเครือข่ายจักรยานรักษ์โลก, น.ส.ชนิสรา ดาอ่อน ประธานเครือข่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากชุมชน, น.ส.พีรญา สุขบำเพ็ญ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ประกอบการท่องเที่ยวพรหมโลก
นายอำนวย กล่าวว่า ควรพัฒนารากเหง้าวัฒนาธรรมชุมชนและจัดให้มีสภาชุมชนในทุกชุมชน โดยสภาจะสามารถช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายปราชญ์เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงการพัฒนาองค์กรชุมชน และจะช่วยให้คนจะไม่ทิ้งถิ่น เด็กเยาวชนจะภูมิใจในชุมชน
นายหนึ่งแก่น กล่าวว่า พร้อมผลักดันการต่อยอดการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนอาชีพชาวนา ส่งเสริมโครงการทำนาลาทุกษ์ ลดการใช้สารพิษเคมี เพิ่มคุณภาพชีวิตเกษตรกร เช่นเดียวกับอาจารย์แสนหล้าที่พร้อมผลักดันการปลูกป่าควบคู่การทำนาและต่อยอดโครงการไม้มีค่า
นายพายัพ กล่าวว่า ควรพัฒนาคลัสเตอร์เกษตรผ่านการผลักดันการรวมกลุ่มและเสริมสร้างวิสาหกิจชุมชน โดนตัดกลางออกไป รวมทั้งยังชื่มชมความสำเร็จของ พ.ร.บ.เกษตรพันธสัญญา ที่ ดร.กอบศักดิ์ เป็นผู้ผลักดัน ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีสัญญาที่เป็นธรรมและช่วยให้เกษตรกรสามารถเพิ่มศักยภาพและต่อยอดการผลิตเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลก เช่น ความสำเร็จของ "กลุ่มประมงที่นวลจันทร์" ที่ส่งออกอาหารทะเลไปอยู่ตลาดโลกได้สำเร็จ
นายพูลศักดิ์ ซึ่งดูแลนโนบายด้านสุขภาพชุมชน ได้สนับสนุนเส้นทางจักรยานทุกชุมชน ปลูกต้นไม้วันเกิดคนละ 1 ต้น จะทำให้ประเทศไทยมีต้นไม้ถึง 60 ล้านต้น เพื่อเสริมสร้างให้ชุมชนมีสภาพแวดล้อมและสุขภาพที่ดีและเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่
นายกิตติพงศ์ พร้อมผลักดันการเข้าถึงธนาคารชุมชนโดยธนาคารชุมชน ชาวบ้านปล่อยกู้ โดยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ กฏหมายรองรับสถาบันการเงินชุมชนและสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศไทย โดยพลังประชารัฐจะผลักดันให้ทุกชุมชนมีธนาคารของตัวเอง เข้าถึงได้ทั่วประเทศไทย
น.ส.ชนิสรา กล่าวว่า หลังจากได้ทำงานร่วมกับชุมชนมาหลายปี เห็นได้ว่า ชุมชนมีความสามารถจัดการตนเองได้ แต่ติดที่กฎระเบียบต่าง ๆ ยังติดขัด ฉุดรั้งชุมชน เหมือนปลิงที่คอยดูดเลือด โดยรัฐบาลชุดที่ผ่านมาได้แก้กฏหมายที่ส่งเสริมความเข้มแข็งจากฐานรากจำนวนมาก และในขั้นต่อไปจะเป็นการต่อยอดความเข้มแข็งของชุมชน โดยอยากผลักดันให้ในทุกชุมชนมีศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์มา โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นที่ ๆ ชุมชนช่วยกันจัดการตนเองและสร้างศักยภาพระหว่างกัน รวมทั้งแบ่งปันการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยสถานที่ตั้งอาจนำศูนย์โอท็อปมาฟื้นฟูพัฒนาเป็นศูนย์เศรษฐกิจสร้างสรรค์ดังกล่าว
นายกอบศักดิ์ยังได้เปิดตัวเยาวชนที่ได้แชร์ประสบการณ์ในการนำศิลปะและการดีไซน์มาต่อยอดการบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชนจนสามารถส่งออกได้ และยังมี Young Smart Farmer ที่ได้นำการเชื่อมโยงความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านต่าง ๆ ในช่องทาง เช่น YouTube มาดัดแปลงและพัฒนาการทำเกษตีทฤษฏีใหม่ในแปลงของตนเอง โดย ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า พรรคพร้อมกองทุนสนับสนุนผู้นำชุมชนรุ่นใหม่ เพราะผู้นำมีความสำคัญอย่างมากในการสร้างชุมชนเข้มแข็ง และชุมชนไม่ควรถูกบังคับให้ทำทุกอย่าง ตั้งแต่ผลิต แปรรูป และการตลาด แต่ภาครัฐควรช่วยส่งเสริมพัฒนาความสามารถด้านการผลิตและแปรรูปให้ชุมชน ในขณะเดียวกัน ควรเชื่อมโยงชุมชนกับคนรุ่นใหม่ หรือ ธุรกิจที่มีความสามารถด้านแพ็คเก็จจิงและช่องทางการตลาด เพื่อขยายฐานตลาดและรายได้ให้ชุมชน
โดยนายกอบศักดิ์และคณะทำงานเพื่อฐานจะไม่ลืมคนจน พลังประชารัฐจะเดินหน้าทำนโยบายเพื่อฐานรากให้ "คนจนอยู่ดี คนมีอยู่ได้ ประเทศไทยยั่งยืน"
