'ชุติมา' ชี้! การทำให้ "ข้าวเปลือก" ราคาสูงจนบิดเบือนกลไกตลาด จะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวถาวร

10 มี.ค. 2562 | 05:19 น.

วันที่ 10 มี.ค. 2562 - น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึงการที่พรรคการเมืองพูดถึง "นโยบายข้าว" โดยระบุว่า

ตอนนี้จะได้ยินข่าวพรรคการเมืองต่างก็ออกมาพูดถึงนโยบายข้าวที่จะบริหารให้ชาวนาพอใจ แต่ละพรรคมุ่งไปที่ราคาข้าวเปลือกที่ตั้งเป้าว่าจะให้ชาวนาได้รับในราคาสูง ซึ่งก็เป็นเรื่องดี แต่ก็อยากให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริง ว่า ข้าวเป็นสินค้าประเภทที่เรียกว่า สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) มีปริมาณมาก หลาย ๆ ประเทศมีเหมือน ๆ กัน คล้าย ๆ กัน ในการบริโภค และมีคู่แข่งหลายประเทศที่เสนอขายในตลาดโลกเป็นปริมาณมากเหมือนกัน การสร้างความแตกต่างจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก นั่นคือ คุณภาพ ซึ่งต้องครบทั้งกระบวนการ ตั้งแต่เริ่มปลูก สีแปร จัดจำหน่าย

ดังนั้น การจะช่วยให้ชาวนาขายข้าวได้ราคาสูง ต้องช่วยที่ต้นเหตุ ไม่ใช่การกำหนดว่าจะให้ข้าวเปลือกราคาเท่าใด ยิ่งสูง ชาวนายิ่งพอใจ เพราะจะได้ราคาดี แต่ถ้าราคาที่เราไปกำหนดเป็นราคาที่บิดเบือนกลไกตลาดมากเกินไป จนทำให้เมื่อสีแปรเป็นข้าวสารแล้ว ราคาสูงมากจนไม่สามารถขายในตลาดได้ เพราะคู่แข่งสามารถผลิตข้าวชนิดที่ใกล้เคียงมาขายได้ในราคาที่ถูกกว่ามาก เราก็จะเสียตลาดแน่นอน ประเทศไทยเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว เมื่อ 6-7 ปีก่อน ที่ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิสูง จนเสียลูกค้าที่เคยซื้อไปจำนวนมาก เพราะไม่สามารถสู้ราคาได้ ที่แย่ที่สุด คือ เราเสียตลาดให้กับคู่แข่ง ที่แม้ผลิตข้าวคุณภาพยังสู้เราไม่ได้ แต่ก็พอที่ลูกค้าจะยอมรับเพื่อทดแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด เพราะตลาดเริ่มสนใจข้าวของคู่แข่ง เมื่อทำตลาดมากขึ้น ผู้บริโภคก็ค่อย ๆ เกิดการยอมรับ เพราะราคาถูกกว่า คุณภาพพอรับได้ เราต้องใช้เวลาอีกหลายปีต่อมา เพื่อดึงราคาข้าวหอมมะลิให้กลับไปสู่ความเป็นจริงของราคาตลาด จนเราสามารถดึงส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้ แน่นอน มันไม่เหมือนสภาพตลาดก่อนหน้า เพราะคู่แข่งเราก็เริ่มพัฒนาพันธุ์ของเขาให้ดีขึ้น สู้เราได้มากขึ้น ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ว่า การจะทำให้พี่น้องเกษตรกรได้ราคาข้าวเปลือกดี ไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่คุณภาพ คือ ต้องมีพันธุ์ที่ดี ได้ผลผลิตปริมาณที่มากขึ้น (เพื่อให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น) ผลิตในต้นทุนที่ต่ำลง มีการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง มีโรงสีที่มีคุณภาพในการสีแปร และมีพ่อค้าในประเทศและผู้ส่งออกที่ร่วมมือกัน เสนอราคาขายที่เหมาะสม ไม่ขายตัดราคากัน เพราะผู้นำเข้ารออยู่แล้วที่จะกดราคาต่ำ ถ้ามีโอกาส เพราะราคาที่ขายในประเทศและราคาส่งออกก็จะสะท้อนมาเป็นราคาข้าวเปลือกในประเทศ เป็นราคาที่พี่น้องชาวนาจะขายได้ ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลไม่ให้ราคาในประเทศตกต่ำจนต่ำกว่าต้นทุนการผลิต จึงเป็นที่มาของมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือในช่วงราคาผลผลิตออกมากค่ะ

 

'ชุติมา' ชี้! การทำให้ "ข้าวเปลือก" ราคาสูงจนบิดเบือนกลไกตลาด จะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวถาวร


เขียนมาถึงตรงนี้ ก็จะมีคนออกมาวิจารณ์ว่าพูดได้ เพราะไม่รู้ของจริงเป็นอย่างไร ก็จะบอกว่า ได้ทดลองปลูกข้าวด้วยตัวเองมาแล้ว 3 ฤดูกาล ทราบซึ้งถึงความยากลำบากที่พี่น้องต้องเผชิญ และเห็นใจ เข้าใจทุกฝ่าย ที่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนา แต่ก็คงมีแกะดำบ้าง ธรรมดาโลก ที่อาจไม่ร่วมมือค่ะ

โดยสรุป ก็คือ การช่วยเหลือชาวนาด้วยการประกาศให้ข้าวเปลือกราคาสูงเกินไปจนบิดเบือนกลไกตลาด มีแต่จะทำร้ายซ้ำเติมและจะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวอย่างถาวรเหมือนในอดีตที่ผ่านมา และเป็นภาระรัฐบาลต้องเอางบประมาณมาแบกรับโดยไม่สมควรค่ะ การจะให้พี่น้องชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ต้องทำหลายมาตรการประกอบกันค่ะ แล้วจะมีมาตรการอะไรบ้าง ค่อยติดตามต่อไปนะคะ


#พันธุ์ข้าว #healthy #เลือกตั้ง #นโยบายข้าว #สาระ #thailand #ไทย #อาหาร #มาตรฐาน #ข้าว #นา #ชาวนา #ข้าวไทย #แปลงใหญ่ #พาณิชย์ #moc #สหกรณ์ #เกษตร #rice #ตลาด #กรมการข้าว #สมาคมชาวนา #สมาคมโรงสี #สมาคมผู้ส่งออก #สมาคมข้าวถุง #เกษตรกร #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #ราคาข้าว #ชาวนามืออาชีพ

'ชุติมา' ชี้! การทำให้ "ข้าวเปลือก" ราคาสูงจนบิดเบือนกลไกตลาด จะทำให้ไทยสูญเสียตลาดข้าวถาวร