ข่าวห้ามเขียน : ตาดูดาว(เทียม) เท้า...ติดเงิน

ข่าวห้ามเขียน : ตาดูดาว(เทียม) เท้า...ติดเงิน
นี่มิใช่เรื่องราวของ ทักษิณ ชินวัตร ผู้กำลังมีทั้งความทุกข์ จากปมยุบพรรค ทษช.โทษฐานดึงฟ้าลงมาตํ่า บั่นทอนสถาบันกษัตริย์ ฯลฯ และกำลังมีความสุขในงานแต่งงานของลูกสาวคนสุดท้องน้องสุดท้าย “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร-ปอ ปิฎก สุขสวัสดิ์” ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ที่ฮ่องกง

แต่เป็นเรื่องราวที่อื้ออึง ทั้งมึน ทั้งงง กันอยู่ในวงการทหาร วงการโทรคมนาคม และดาวเทียม...

เมื่อครม. "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบร่างแนวทางดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกิจการดาวเทียมวงโคจรประจำที่ (Geostationary Satellite Orbit : GSO) เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560
ข่าวห้ามเขียน : ตาดูดาว(เทียม) เท้า...ติดเงิน

สาระหลักคือ 1.อนุญาตให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้สิทธิข่ายงานดาวเทียมในนามประเทศไทยได้ จากปัจจุบันไทยมีการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม GSO หรือรักษาสิทธิของข่ายงานดาวเทียมที่ได้รับการจดทะเบียน

2. เห็นชอบร่างนโยบายการพิจารณาอนุญาตให้ดาวเทียมต่างชาติให้บริการในประเทศ โดยจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการใช้ช่องสัญญาณของดาวเทียมต่างชาติ จากเดิมที่ไม่อนุญาตให้ใช้ช่องสัญญาณดังกล่าวเพื่อการพาณิชย์ แต่จะใช้เฉพาะในภารกิจของพระราชวงศ์ ความมั่นคงทางทหาร และภัยพิบัติ สาธารณสุข กิจกรรมสำคัญระหว่างประเทศ

รอบนี้ จะอนุญาตให้มีการใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในประเทศเชิงพาณิชย์ได้ แต่เอกชนที่จะได้รับใบอนุญาตต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น เกณฑ์การถือหุ้นตามกฎหมายไทย การควบคุมเนื้อหาต่างๆ โดยภาครัฐของไทย

งานนี้เป็นการเปิดทางให้ต่างชาติใช้ตา...มาสอดส่องไทย ได้ชัดขึ้น... มตินี้จึงอื้ออึงว่า มีอะไรในกอไผ่...

อื้ออึง กันก่อนหน้านี้ไม่นานนัก จากการที่มือดีปล่อยข่าวออกมาจากกระทรวงดีอีว่า บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT กำลังเจรจาซื้อหุ้นบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM ในสัดส่วน 41.7% จากบริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้กิจการดาวเทียมเป็นของคนไทย มิใช่กองทุนเทมาเสกจากสิงคโปร์
ข่าวห้ามเขียน : ตาดูดาว(เทียม) เท้า...ติดเงิน ปล่อยของกันมาว่า นายกฯลุงตู่ ประกาศกร้าวว่า มิสชัน อิมพอสซิเบิล นี้ต้องเสร็จสิ้นก่อนหมดวาระ

แว่วว่า มีคนเก่งด้านคณิตศาสตร์เลขคณิตคิดเร็วปุ๊บปั๊บว่า สำเร็จอาจมีเบี้ยตกหล่น 400-500 ล้าน

ปล่อยของ ปล่อยข่าวนี้ออกมา หลังจากข้อพิพาทระหว่าง ดีแทคกับ กสท ยุติข้อพิพาท (เกือบทั้งหมด) โดย DTAC ยอมจ่าย 9,500 ล้านบาท

ผลที่ตามมาคือ คนใน กสท ลุ้นกันระทึก หุ้นดาวเทียมไทยคมคึกขยับรับข่าว ไต่ขึ้นมายืนเหนือ 7.50 บาท ขณะที่หุ้นตัวแม่อินทัช ตีปีกพั่บๆ

เรื่องแบบนี้จำกันบ่ได้ก๋าในห้วง 10 ปีก่อน การพยายามซื้อคืนหุ้นไทยคมออกมาจากกลุ่มเทมาเสก มีมาตั้งแต่ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอนนั้น ศิริโชค โสภา เดินทางไปเจรจากับผู้บริหารของกลุ่มเทมาเสกจากสิงคโปร์เพื่อความปลอดภัยของชาติ

ปรากฏว่า การซื้อขายหุ้นบริษัท ไทยคมฯ ราคาสูงขึ้นเกือบ 30% มูลค่ากว่า 800-1,300 ล้านบาท...รอบนี้ก็มิต่างกันดอกจิบอกไห่...

บางคนนั้นตาเขาดูดาว แต่เท้าเขาเหยียบไว้ใต้ดิน