ยื้อไฮสปีดเทรน ระวังล้มเป็นโดมิโน

09 มี.ค. 2562 | 15:32 น.

ยื้อไฮสปีดเทรน  ระวังล้มเป็นโดมิโน
ยื้อไฮสปีดเทรน  ระวังล้มเป็นโดมิโน
วันที่ 19 มีนาคมนี้ คณะกรรมการคัดเลือกโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง หรือ ไฮสปีดเทรน เชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท ที่มี่นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นประธาน นัดเจรจากับกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตรหรือกลุ่มซีพี เพื่อชี้ขาดผลการประมูลไฮสปีดเทรนระหว่างรฟท.กับกลุ่มซีพี

 

ประเด็นสำคัญที่จะมีการเจรจาวันที่ 19 มีนาคมนี้ คือจะต้องดูว่ากลุ่มซีพีรับได้หรือไม่เกี่ยวกับผลการพิจารณาของคณะกรรมการคัดเลือกที่ปฏิเสธ 12 ข้อเสนอเพิ่มเติมของทางกลุ่มซีพี จากทั้งหมดที่เสนอมากว่า 100 ข้อ เนื่องจากขัดกับเอกสารเสนอโครงการ หรือ RFP และขัดกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังกลุ่มซีพีขอเลื่อนการเจรจาเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมาออกไป โดยอ้างเหตุผลเรื่องยังไม่สามารถตกลงกับพันธมิตรได้

ยื้อไฮสปีดเทรน  ระวังล้มเป็นโดมิโน
ยื้อไฮสปีดเทรน  ระวังล้มเป็นโดมิโน

รักษาการผู้ว่าการรฟท.บอกว่า หากซีพียังมีการแจ้ง ขอเลื่อนการประชุมออกไปอีก โดยอ้างเหตุผลเรื่องยังไม่สามารถตกลงกับพันธมิตรได้ อาจจะพิจารณายุติการหารือกับซีพีและเชิญกลุ่มบีทีเอสมาหารือแทน เพราะถือว่าไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มซีพี ได้เคยแจ้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ แล้วว่ามีความพร้อมที่จะเจรจาแล้ว แต่คณะกรรมการคัดเลือกฯ เป็นฝ่ายที่ขอเลื่อนเวลาออกไปเป็นวันที่ 19 มีนาคมแทน เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ
 

ต้องยอมรับว่าการคัดเลือกผู้ชนะการประมูลไฮสปีดเทรน ยืดเยื้อมาเกือบ 3 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 หลังจากคณะกรรมการคัดเลือกฯประกาศข้อเสนอซอง 3 ด้านการเงิน ที่ปรากฏว่ากลุ่มซีพีมีการเสนอขอรับเงินอุดหนุนจากรัฐตํ่าสุดที่ 117,227 ล้านบาท จากนั้นในเดือนมกราคม 2562 คณะกรรมการคัดเลือกฯได้เปิดเจรจารายละเอียดของโครงการกับกลุ่มซีพีมาอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ
 

ความล่าช้าในการประกาศผลผู้ชนะการประมูลไฮสปีดเทรน เริ่มส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อ การเปิดประมูลโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก บนเนื้อที่ 6.5 พันไร่ มูลค่าลงทุนประมาณ 2.7 แสนล้านบาท ที่มีี 42 บริษัท จาก 8 ประเทศ เข้ามาซื้อซองประกวดราคา แต่ต้องเลื่อนออกไปจากเดิมที่กำหนดยื่นซองในวันที่ 1 มีนาคม เป็นวันที่ 21 มีนาคมแทน เพราะเอกชนต้องการรอดูความชัดเจนโครงการไฮสปีดเทรน ที่เป็นกุญแจดอกสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ี่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ดังนั้นการเจรจาระหว่างคณะกรรมการคัดเลือกฯกับกลุ่มซีพีในวันที่ 19 มีนาคมจะต้องมีคำตอบที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้การพัฒนาโครงการต่างๆในอีอีซีที่รัฐบาลวางแผนไว้ล้มเป็นโดมิโน

|บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3451 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 10-13 มี.ค.2562
ยื้อไฮสปีดเทรน  ระวังล้มเป็นโดมิโน