MGเล็งนำเข้าอีวีจากจีนภาษี0%ประเดิมeZSราคา1.5-2.0ล้านบาท

09 มี.ค. 2562 | 06:15 น.

“เอ็มจี” แบรนด์อังกฤษทุนจีน เล็งเปิดตัวรถพลังไฟฟ้า “อีวี” ในไทยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดเป็นเอสยูวีที่พัฒนามาจาก “แซดเอส” หรือชื่อรุ่น “อี-แซดเอส” เบื้องต้นนำเข้าทั้งคันจากจีน คาดราคา 1.5-2.0 ล้านบาท MGเล็งนำเข้าอีวีจากจีนภาษี0%ประเดิมeZSราคา1.5-2.0ล้านบาท
    MGเล็งนำเข้าอีวีจากจีนภาษี0%ประเดิมeZSราคา1.5-2.0ล้านบาท
ตามที่รัฐบาลมีแผนสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ด้วยการสนับสนุนให้เกิดการผลิตโปรดักต์แชมเปี้ยนตัวที่ 3 นั่นคือรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโลก พร้อมเปิดกว้างการลงทุนตั้งแต่ ไฮบริด ปลั๊ก-อินไฮบริด และรถพลังไฟฟ้า“อีวี”ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุด

ในกลุ่มไฮบริดและปลั๊ก-อินไฮบริด หลายค่ายรถยนต์กำลังขะมักเขม้นในการวางแผนผลิต ทั้งตัวรถ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องเช่นแบตเตอรี่ในเมืองไทย ส่วน “อีวี” บรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เช่นโตโยต้า และเมอร์เซเดส-เบนซ์ ยื่นแผนส่งเสริมการลงทุนต่อบีโอไอไปแล้ว แต่ยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะพร้อมผลิตหรือทำตลาดรถประเภทนี้เมื่อไหร่ (โตโยต้าเน้นไฮบริดก่อน ส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ มุ่ง ปลั๊ก-อินไฮบริด)

ดังนั้นการทำตลาด อีวี จากค่ายเมเจอร์แบรนด์ในช่วงแรกจึงเป็นการนำเข้าทั้งคัน ที่เริ่มเห็นตั้งแต่ปีที่แล้วคือ นิสสัน ลีฟ, ฮุนได ไอออนิค, เกีย โซล และปีนี้เพิ่มเติมด้วยค่ายยุโรปอย่าง เมอร์เซเดส-เบนซ์ และอาวดี้ เช่นเดียวกับน้องใหม่ “เอ็มจี” ที่การทำธุรกิจในไทยมีเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ถือหุ้น 50%

โดย “เอ็มจี” ยื่นแผนส่งเสริมการลงทุนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง ปลั๊ก-อินไฮบริด และอีวี ตามกำหนดเส้นตายปลายปีที่แล้ว ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดเตรียมนำเข้าอีวีจากจีนมาทำตลาดก่อน พร้อมเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง 2562

“เราเตรียมเปิดตัว อีวีรุ่นใหม่ ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ช่วงครึ่งปีหลัง 2562 ราคาอยู่ในช่วง 1.5-2.0 ล้านบาท”นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

จากคำยืนยันของผู้บริหารของเอ็มจี และพิจารณาจากเทคโนโลยีของบริษัทแม่ SAIC ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์จีน ที่มีแบรนด์ในเครือมากมายและมีความพร้อมในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เป็นทุนเดิม โดยรถที่มีความเป็นไปได้ในการทำตลาดของเอ็มจีในช่วงนี้คือ “อี-แซดเอส” ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน กวางโจว มอเตอร์โชว์ 2018 เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
    MGเล็งนำเข้าอีวีจากจีนภาษี0%ประเดิมeZSราคา1.5-2.0ล้านบาท MGเล็งนำเข้าอีวีจากจีนภาษี0%ประเดิมeZSราคา1.5-2.0ล้านบาท
โดยพื้นฐานการพัฒนามาจากครอสโอเวอร์รุ่น “แซดเอส” (เมืองไทยกำลังขายดี) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร พร้อมชุดแพ็กแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 44.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางเรียงอยู่บนแพลตฟอร์ม การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้งรถสามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร

ทั้งนี้ การนำเข้าอีวีจากจีนจะไม่มีภาษีนำเข้า จากข้อตกลงเขตการค้าเสรี “เอฟทีเอ” จีน-อาเซียน” ซึ่งได้เปรียบกว่ารถยนต์ทั่วไป (มีเครื่องยนต์) ที่ต้องเสียภาษีนำเข้า 80% โดยค่ายรถที่ได้ใช้สิทธิ์นี้ไปแล้วคือ “บีวายดี” กับรุ่น อี 6 ที่นำมาทำเป็นแท็กซี่วีไอพี

ดังนั้นเอฟทีเอ “จีน-อาเซียน” จึงถือเป็นการเปิดประตูให้อีวียี่ห้ออื่นๆ ของจีนเข้ามาทำตลาดในไทย และได้เปรียบค่ายญี่ปุ่นที่แม้จะทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (JTEPA) ไว้เช่นกัน แต่การนำเข้า “อีวี” มาขายยังราชอาณาจักรไทย ต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 20%

อย่างไรก็ตาม อีวีที่นำเข้ามาจากทุกแหล่ง ต้องโดนภาษีตัวอื่นๆ ในไทยทั้ง VAT และภาษีมหาดไทย รวมถึงภาษีสรรพสามิตอีก 8% (แต่ถ้าผลิตในประเทศภาษีสรรพสามิตจะเหลือ 2%)

นอกจาก อีวี รุ่น อี-แซดเอสแล้ว ปีนี้เอ็มจียังเตรียมเปิดตัว ปิกอัพรุ่นใหม่ ที60 ในช่วงครึ่งปีหลัง (ประกอบในประเทศ) และในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2019 นี้ เสริมทัพด้วยรถตู้ขนาดใหญ่ 11 ที่นั่งรุ่น V80 เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ ราคาประมาณ 1 ล้านบาท