เดินให้ถูกทาง ... ท่ามกลางปัจจัยเหนือการควบคุม

| คอลัมน์ : ผ่ามุมคิด

……………….


"เอสซี แอสเสท" ผู้พัฒนารายใหญ่ในกลุ่มบ้านหรู ภายใต้แบรนด์ "บางกอก บูเลอวาร์ด" และอื่น ๆ แต่ละปีส่งโครงการเข้าตลาดไม่ตํ่ากว่า 2,000-3,000 หน่วย ผ่าทางตันอสังหาฯไทย ปี 2562 ... "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยอมรับหนทางไม่สดใส ปรับแผนธุรกิจปีต่อปี เผชิญสถานการณ์โลกและความไม่แน่นอนในประเทศ ท้าท้ายสุด คือ ปัจจัยเหนือการควบคุม เดินให้ถูกทางรับเรียลดีมานด์เพื่อเติบโตต่อ


⇲ ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์


⁍ ปัจจัยใหญ่น่ากังวล

ณัฐพงศ์ เผยว่า ปีนี้การทำธุรกิจในทุกภาคมีความเสี่ยง เพราะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนของทิศทางโลกหลายประเด็น น่ากังวลสุด คือ 1) ภาพรวมตัวเลขหนี้ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะคนจีน กลุ่มประเทศใหญ่มีการบริโภคลดลง, 2) ดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลต่อประเทศไทยโดยตรง, 3) สงครามการค้า ยิ่งยืดเยื้อยิ่งรั้งภาพรวม, 4) กังวลเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังโตต่อเนื่องเกิน 20 เดือน, 5) หลายประเทศเสี่ยงมีความวุ่นวายจากการเลือกตั้ง และ 6) การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวัตกรรม ที่เติบโตแบบไม่หยุด ทั้งหมดเป็นความกังวลที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย


⁍ อสังหาฯไทยหดตัว

สำหรับทิศทางตลาดอสังหาฯไทยปีนี้ ยอมรับว่า ไม่สดใส ยากสุดกับการตั้งรับปัจจัยที่เหนือการควบคุม โดยเฉพาะมาตรการปรับหลักเกณฑ์ขอสินเชื่อใหม่ของ ธปท. หรือ LTV คาดจะกระทบตลาด 10-15% เพราะผู้ซื้อบ้านส่วนใหญ่ 70-80% ยังต้องอาศัยการขอสินเชื่อ ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนถึงสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง ยังประเมินทิศทางไม่ถูกว่าจะออกมาอย่างไร คาดจะส่งผลให้ภาพรวมตลาดลดลงประมาณ 4-5% จำนวนหน่วยเปิดใหม่หดตัวเล็กน้อย หลังจากปีที่ผ่านมา ตลาดสร้างประวัติการณ์มีตัวเลขหน่วยเปิดใหม่สูงสุดในรอบ 20 ปี มากกว่า 5 แสนหน่วย ขณะที่ ดีมานด์จะหายไปประมาณ 9%


⁍ ตลาดเรียลดีมานด์

ณัฐพงศ์ สะท้อนต่อว่า ผู้ซื้อกลุ่มเดียวที่จะยังคงเหลืออยู่ในตลาดปีนี้ คือ เรียลดีมานด์ ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ปัจจุบัน มีลูกค้ารวม 2 หมื่นครอบครัว จาก 59 โครงการ ซึ่งแผนเปิดโครงการใหม่ในปีนี้จะเน้นกลุ่มโปรดักต์ราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาท เพราะเป็นดีมานด์กลุ่มใหญ่ ประมาณ 30% ของตลาดทั้งหมด บริษัทมียอดขายจากกลุ่มดังกล่าวเติบโตต่อเนื่องอย่างน่าสนใจ เพียง 4 ปี เติบโตมากกว่า 400% ปัจจุบัน มีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับ 4 ของตลาดดังกล่าว ประมาณ 6% ผ่านแบรนด์ PAVE รายได้เป็น 20% ของพอร์ตรวม ซึ่งในอนาคตจะขยับเป็นส่วน 1 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมด ขณะที่ โปรดักต์กลุ่มราคามากกว่า 8-20 ล้านบาท ยังเป็นตลาดหลักของบริษัท และครองมาร์เก็ตแชร์เป็นเบอร์ต้น ๆ และอันดับ 1 ของตลาด เช่น แบรนด์ "บางกอก บูเลอวาร์ด"


หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,451 วันที่ 10-13 มีนาคม 2562