MG ปีนี้คึกคัก! จัด 3 ตัวใหม่ ... "ปิกอัพ-รถตู้-อีวี"
น้องใหม่ 'เอ็มจี' เครื่องฟิตสตาร์ตติดง่าย หวังยอดขายปีนี้แตะ 5 หมื่นคัน รักษาอัตราเติบโต 100% ต่อเนื่อง ประกาศเสริมโปรดักต์ใหม่ 3 รุ่น ทั้งรถตู้ใหญ่ วี80 และปิกอัพ ที60 ที่ถอดตราแม็กซัสแล้วแปะแบรนด์ MG ขายในไทย ส่วนครึ่งปีหลัง เล็งนำเข้า "อี-แซดเอส เอสยูวี" พลังไฟฟ้าจากจีน มาประเดิมทำตลาด คาดราคา 1.5-2.0 ล้านบาท ก่อนเดินหน้าประกอบ "อีวี" ในประเทศ
ตามยุทธศาสตร์วางประเทศไทยให้เป็นฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวา สำหรับเครือ SAIC ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน ที่ร่วมลงขันทำธุรกิจในไทยกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ด้วยแบรนด์ 'เอ็มจี' (MG) พร้อมด้วยโรงงานใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 จ.ชลบุรี มูลค่าการลงทุน 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ สถานการณ์การขายรถในประเทศได้การตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ จากปีแรก 2557 ทำได้ 200 คัน ปี 2558 - 3,778 คัน, ปี 2559 - 8,319 คัน, ปี 2560 - 12,014 คัน และปี 2561 - 23,740 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้าหมาย 50,000 คัน โตกว่า 100% โดยรุ่นที่เป็นพระเอกของค่าย คือ 'เอ็มจี3' และ 'เอ็มจี แซดเอส'
เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขาย "เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย" ตั้งใจเพิ่มโชว์รูม-ศูนย์บริการเป็น 140 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ SAIC ยังมองว่า การขายรถในไทยจะใช้แบรนด์ 'เอ็มจี' เป็นหัวหมู่ทะลวงฟันเพียงแบรนด์เดียว โดยยุติการขายภายใต้แบรนด์ 'แม็กซัส' (Maxus) ไปตั้งแต่ 1-2 ปีที่แล้ว ซึ่งดีลเลอร์ส่วนหนึ่งถูกชักชวนให้มาขายเอ็มจีแทน
ส่วนรถยนต์ที่ SAIC ตั้งใจเสริมทัพเข้ามาในพอร์ตของเอ็มจี หลายรุ่นขายในจีน ด้วยแบรนด์ 'แม็กซัส' เช่น รถตู้ 11 ที่นั่ง ขนาดใหญ่ รุ่นวี80 ที่เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2019 ปลายเดือน มี.ค. นี้
สำหรับ "เอ็มจี วี80" เป็นรถนำเข้ามาจากประเทศจีน จดทะเบียนเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล 11 ที่นั่ง (ป้ายฟ้า) ใช้เป็นรถครอบครัว หรือ เจาะกลุ่มองค์กร โรงแรม กล่าวคือ เป็นรถตู้ที่ใช้แล้วดูดีและกว้างขวางกว่า "โตโยต้า คอมมิวเตอร์" และไม่แพง ขึ้นไปสู้กับ "ฮุนได เอชวัน" หรือ "เกีย แกรนด์คาร์นิวัล"
เอ็มจี วี80 เป็นรถเครื่องยนต์วางหน้า และขับเคลื่อนล้อหน้า มิติตัวถังกว้าง 1.99 เมตร สูง 2.13 เมตร และพื้นห้องโดยสารที่ราบเรียบ (Flat Floor) วางเบาะ 4 แถว สามารถเดินถึงกันได้ในแบบ Walk Through พร้อมประตูสไลด์ 2 บาน และบันไดข้างไฟฟ้าระบบอัตโนมัติ ที่เพิ่มความสะดวกสบายในการขึ้น-ลง ประตูท้ายบานคู่เปิดแบบ 50 : 50 ได้กว้าง 180 องศา
ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร มีให้เลือกทั้งเกียร์อัตโนมัติแบบ AMT (ระบบคลัตช์ไฟฟ้า) และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาประมาณ 1 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 100 คันต่อเดือน
"นับตั้งแต่เปิดตัวรถรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทยในปี 2557 ปัจจุบัน เอ็มจีมีรุ่นรถที่ครอบคลุม ทั้งรถยนต์นั่ง 4 ประตู, รถยนต์นั่ง 5 ประตู และรถเอสยูวี ซึ่งทุกรุ่นได้รับการตอบรับจากลูกค้าคนไทยเป็นอย่างดี และมียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทได้เปิดตัว "เอ็มจี วี80" เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง นั่งสบาย มีความปลอดภัยสูง ตลอดจนมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินทางของสมาชิกในครอบครัว หรือ หมู่คณะ และสามารถรองรับทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างลงตัว" นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ส่วนรถยนต์อีก 1 รุ่นของแม็กซัส ที่เตรียมแปะตราเอ็มจีขายในไทย คือ ปิกอัพ "ที60" ซึ่งเป็นรถประกอบในประเทศ และไทยมีหน้าที่ผลิตรุ่นพวงมาลัยขวาส่งออกไปเพื่อนบ้านในเอเชียโอเชียเนียด้วย (การส่งออกอาจจะเป็นแบรนด์ 'แม็กซัส' หรือ LDV ในออสเตรเลีย)
ปิกอัพ "เอ็มจี ที 60" พร้อมขายในครึ่งปีหลัง วางเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ช่วงแรกจะมากับตัวถังดับเบิลแค็บ 4 ประตู และมีแผนทำตลาดตัวถังหัวเดียวแบบซิงเกิลแค็บเช่นกัน
นอกจากรถตู้และปิกอัพแล้ว เอ็มจีดูจะเป็นค่ายรถตลาดที่มีความชัดเจนที่สุดในการมุ่งไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทแม่ที่เมืองจีนมีเทคโนโลยีและพันธมิตรพร้อมสรรพ ขณะที่ เอ็มจี เซลส์ ประเทศไทย ยื่นแผนส่งเสริมการลงทุนต่อบีโอไอในช่วงเส้นตายเดือน ธ.ค. 2561 เพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งปลั๊ก-อินไฮบริดและอีวี ตามนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ยุคใหม่ของรัฐบาล
ในช่วงแรกของการทำตลาดจะเป็นการนำเข้าทั้งคันมาจากประเทศจีน ด้วยข้อตกลงเอฟทีเอ "จีน-อาเซียน" ทำให้การนำเข้ารถพลังไฟฟ้า "อีวี" มาขายในไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า โดยรุ่นที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ เอ็มจี "อี-แซดเอส" ที่เพิ่งเปิดตัวในงานกวางโจว มอเตอร์โชว์ 2018 เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว
สำหรับ "อี-แซดเอส" ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแรงบิด 350 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อมชุดแพ็กแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ขนาด 44.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วางเรียงอยู่บนแพลตฟอร์ม การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง รถสามารถวิ่งได้ระยะทางกว่า 300 กิโลเมตร
"เราเตรียมเปิดตัวอีวีรุ่นใหม่ที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ช่วงครึ่งหลังปี 2562 ราคาอยู่ในช่วง 1.5-2.0 ล้านบาท. นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ กล่าวยืนยัน
2 โปรดักต์ นำเข้า 1 โมเดล ประกอบในประเทศ น่าจะเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างโอกาสในการขายให้กับเอ็มจี ที่สถานการณ์ดีวันดีคืน ส่วนรถพลังไฟฟ้า แม้ช่วงแรกยอดขายไม่มาก แต่ถือเป็นการนับหนึ่งเพื่อศึกษาตลาด พร้อมแสดงศักยภาพการเป็นผู้บุกเบิกยานยนต์สมัยใหม่ในไทย
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,451 วันที่ 10 - 13 มีนาคม พ.ศ. 2562
