ชูชาติ เพ็ชรอำไพ ไม่เอาเปรียบลูกค้า พนักงานต้องกินอิ่ม นอนอุ่น

26 มี.ค. 2559 | 03:00 น.
คำกล่าวคำหนึ่งบอกว่า "ชูชาติ เพ็ชรอำไพ" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS เดินหมากฮอสเพียง 3 ตา ก็เข้าฮอสเลย ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบการบริหารงานของชูชาติ หลังนำหุ้น MTLS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งเรื่องของราคาไอพีโอที่เปิดเทรดวันแรก ที่ราคาหุ้นพุ่งกระฉูดปิดที่ 10 บาท จากราคาไอพีโอ 5.50 บาท ขณะที่ปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ที่ 20 บาท ส่วนมูลค่าหุ้นก็เพิ่มจาก 2 พันล้านบาท เป็น 4 หมื่นล้านบาท ภายในระยะเวลาแค่ 1 ปี ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่ใครเลยจะรู้ว่าบนเส้นทางแห่งความสำเร็จที่เห็นในระยะสั้นนั้น จะเป็นถนนที่ถูกปูทางมาเป็นอย่างดีกว่า 24 ปี

ปัจจุบัน MTLS ทำธุรกิจสินเชื่อ 4 ประเภท คือ สินเชื่อที่ดิน สินเชื่อป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ สินเชื่อป้ายทะเบียนรถยนต์ และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ชูชาติ เล่าให้ฟังว่า ด้วยสายเลือดของการค้าขายที่มีอยู่ทั้งในตัวเอง และภรรยา เป็นเสมือนเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้แล้วว่า ไม่วันใดก็วันหนึ่งจะต้องออกมาทำธุรกิจเป็นของตนเอง เพราะเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ (Born to be) หลังจากเขาและภรรยา ได้สะสมประสบการณ์ในการทำงานจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มาระยะหนึ่ง ก็ได้ตัดสินใจลาออกมาเปิดบริษัทของตนเองในสายงานที่ถนัด จุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จังหวัดสุโขทัย ขยายไปสู่พิษณุโลก ไปสู่พิจิตร จนปัจจุบันสาขาของ MTLS มีครบทุกจังหวัด หรือเรียกว่าเกือบครบทุกอำเภอในประเทศไทยก็ว่าได้จากจำนวนสาขา 900 แห่ง เรียกได้ว่า สาขาของเมืองไทย ลิสซิ่ง ผุดเป็นดอกเห็ด

หลักการบริหารสำคัญที่ชูชาติยึดเหนี่ยว และนำมาใช้เป็นหลักคิดง่ายๆ ทั่วไปตามตำราบริหาร ได้แก่

1. อย่าเอาเปรียบลูกค้า โดย MTLS คิดดอกเบี้ยสินเชื่อป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซด์ และรถยนต์ ถูกที่สุดในประเทศ รวมถึงสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้เป็นอันดับ 1 ก็คิดดอกเบี้ยเพียง 29% ต่อปี ทั้งที่ตามกฎหมายสามารถเรียกเก็บได้ถึง 36%

2. การให้บริการที่ดีแก่ลูกค้า สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยปัจจุบัน MTLS มีฐานลูกค้าทั่วประเทศ 1 ล้านราย

3. อย่าเอาเปรียบลูกน้อง ประเด็นนี้ชูชาติ บอกว่า สำคัญมาก พร้อมยกตัวอย่าง MTLS จ่ายเงินเดือนเท่าระบบราชการ บวกโบนัสขั้นต่ำ 3 เดือน ทุกปี หากมีกำไรก็จะแบ่งเพิ่มเติมให้อีก เรียกว่าพยายามให้ทุกอย่างที่ลูกน้องพอใจ อยู่ร่วมกันแบบครอบครัวเดียวกันไม่เอาเปรียบกัน ปัจจุบันมีพนักงานทั่วประเทศ 2,600 คน

ประสบการณ์ , บอร์น ทู บี และสัญชาตญาณ คือ หลักการทำงานของผม และผมจะพูดกับพนักงานเสมอว่า เราอยู่ด้วยกัน เราโตไปด้วยกัน "

ชูชาติบอกว่า ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ทำให้เขามีสัญชาตญาณที่สามารถบอกได้ว่ากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ หรือเมื่อเจอทางแยกจะต้องเดินไปในทิศทางใด เปรียบได้กับโลกของธุรกิจที่รู้ว่าจะต้องทำสิ่งใด แบบไหนจึงจะประสบความสำเร็จ

"ที่สุดแล้วการทำธุรกิจคืนสู่สามัญ กล่าวคือ หากเรียนบริหารธุรกิจมาชั่วโมงแรกที่เข้าไปเรียน เปิดตำราดูวิธีทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ หนังสือจะบอกไว้เลยว่า 1. อย่าเอาเปรียบลูกค้า 2.บริการลูกค้าให้ดี 3.ดูแลพนักงานให้ดี เป็นคอมมอนเซนส์เลย คุณไปตีความเอาเองเพราะเป็นตำราเล่มเดียวกัน"

ถอดรหัสจากตำราสู่การปฏิบัติ ในความหมายของชูชาติ เขาบอกว่า "การไม่เอาเปรียบลูกค้าผมก็คิดดอกเบี้ยถูกๆ คุณทำได้ไหม อย่าเอาเปรียบพนักงานให้เค้าได้กินอิ่ม นอนอุ่น ให้เค้าอยู่สบายเดี๋ยวเค้าทำงานให้เรา ก็ตีความว่าต้องมีโบนัส เงินเดือน รายได้ มีหุ้นก็แบ่งให้เค้า คุณทำได้ไหม หลายคนที่ทำไม่ได้ เพราะความโลภ ผมทำในสิ่งที่คนรู้ เหมือนธรรมมะที่ว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" นี่ก็พื้นๆ"

ชูชาติ บอกว่าด้วยสไตล์การทำงาน 2 รูปแบบที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทั้งแบบ"อนุรักษ์นิยม" และแบบ "หัวก้าวหน้า" ทำให้เขาเป็นผู้บริหารที่สามารถปรับตัวให้กับโลกของธุรกิจที่มีความผันผวนได้เป็นอย่างดี จะเห็นได้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลของ MTLS ที่มีอยู่เพียง 1% เท่านั้น จากพอร์ตสินเชื่อ 1.2 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2558 ซึ่งมาจากความระมัดระวังและมีการป้องกันเป็นอย่างดีในการปล่อยสินเชื่อ แต่จำนวนสาขาของ MTLS กลับขยายตัวอย่างก้าวกระโดดทุกปี จากเดิมก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มีอยู่ 500 สาขา หลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเพิ่มอีก 400 สาขา ส่วนปี 2559 ตั้งเป้าขยาย 450 สขา และจะมีเพิ่มมากขึ้นเป็น 1,700 สาขาในปี 2560

คติในการทำงานของชูชาติในวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จากพนักงานกินเงินเดือนในระดับหัวหน้า เงินเดือนออกแทบทุกครั้งจะต้องซื้ออาหารมาเลี้ยงลูกน้องที่เงินเดือนน้อยกว่า ทำให้เป็นที่รักของลูกน้องและพร้อมที่จะทำงานให้ตามที่ได้รับมอบหมาย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,142 วันที่ 24 - 26 มีนาคม พ.ศ. 2559