ร้อนนี้ต้องชิงแชร์‘ตลาดแอร์’ แบรนด์ดังแลกหมัด

02 มี.ค. 2562 | 00:25 น.

ปัจจัยบวกอื้อ ดันตลาดแอร์ 3 หมื่นล้านระอุ แบรนด์ดังเปิดเกมแลกหมัด งัดกลเม็ดส่งนวัตกรรม IoT-AI ชูกลยุทธ์ Celabity Marketing ดึงหนุ่มหล่อ-สาวสวย ร่วมโปรโมต ปั๊มยอดขาย

แม้ภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ปีที่ผ่านมาจะติดลบถึง 6% ซึ่งเป็นผลพวงจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน ไม่ร้อนจัดและร้อนนานเหมือนเช่นปีก่อนๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อที่ชะลอตัวก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตลาดไม่เติบโตเท่าที่ควร ขณะที่ในปีนี้มีปัจจัยบวกที่ส่งผลต่อกำลังซื้อ และภาพรวมเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกตั้ง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ (เมกะโปรเจ็กต์) การจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นหลังจากเผชิญกับวิกฤติช่วงปลายปีที่ผ่านมา บวกกับการเข้ามาของกลุ่มสมาร์ทโฮม หรือเทคโนโลยี IoT และ AI ที่ถูกนำมาพัฒนาเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เครื่องปรับอากาศส่งสัญญาณบวก 5-10% ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่แต่ละแบรนด์เริ่มเปิดศึกรับซัมเมอร์กันเร็วกว่าปีที่ผ่านมา

mp32-3448-1

เริ่มประเดิมตลาดรับหน้าร้อนเจ้าแรกกันด้วย “ไฮเออร์” เครื่องปรับอากาศสัญชาติจีนที่เร่งเดินเครื่องสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ในไทยจนถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของตลาดก็เปิดตัวสินค้าเรือธงอย่างบุกตลาดเป็นเจ้าแรก ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปโฉม และฟังก์ชันใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่มีเฉพาะตัว โดยเฉพาะรุ่นใหม่กลุ่มพรีเมียมรุ่น “Puri Cool Series” ที่มาพร้อม ฟังก์ชัน Super IFD ฟิลเตอร์ที่ช่วยกรองมลพิษในอากาศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมกับปรับตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศไฮเออร์ให้อยู่ในระดับไฮเอนด์
 

ขณะที่อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีอย่าง “แอลจี” ก็เข็นทัพนวัตกรรม  IoT ที่มาพร้อมกับไลน์เครื่องปรับอากาศแบบอินเวอร์เตอร์ทั้งหมดในปีนี้ 6 ซีรีส์ 18 รุ่นออกมาบุกตลาด เพื่อต้อน รับการเข้ามาของเทคโนโลยีไอที หรือ  IoT ที่เข้ามามีผลต่อการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเป็นอย่างมาก พร้อมกับวางเป้าหมายทางการตลาดเป็น 10% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 8%
 

คุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน LINE : @THANSETTAKIJ 
เพิ่มเพื่อน

“IOT เข้ามามีผลต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมออกสู่ตลาดในการรองรับความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต, การควบคุมผ่านแอพพลิเคชันต่างๆ ผ่านมือถือ รวมไปถึงการเชื่อมต่อไว-ไฟ เป็นต้น แต่ต้องยอมรับว่าปัจจุบันสินค้ากลุ่มนี้ยังมีจำนวนน้อยอยู่ และส่วนใหญ่อยู่ในตลาดระดับกลาง-บน มากกว่าเมื่อเทียบกับภาพรวมตลาดซึ่งปัจจุบันมีเพียง 3% ที่เป็นสินค้า IOT ในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จากปีที่ผ่านมาที่มีไม่ถึง 1%” นายนิพนธ์ วงษ์แสงอรุณศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ประกอบข่าว1

ด้านพานาโซนิค ประเทศ ไทย เริ่มเปิดเกมรุกหน้าร้อนนี้ด้วยการชูนวัตกรรมโซลูชัน Quality Air For Life กับผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศ และระบบประบอากาศที่สร้างอากาศเย็นสบาย และด้วย nanoeTM Technology ที่ยับยั้ง ฝุ่น PM 2.5 เชื้อราและไวรัส เป็นหัวหอกหลักในการบุกตลาดเครื่องปรับอากาศ จากปัจจุบันที่อยู่ในอันดับ 3 ของตลาด และมองว่ายอดขายแอร์ของพานาโซนิคจะโตไม่ตํ่ากว่า 5-7% ในปีนี้ จากปีที่ผ่านมาที่ยอดขายทรงตัว
 

โดยนายฮิเดคาสึ อิโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พานาโซนิค ประเทศไทยฯประเมินปัจจัยบวกในตลาดปีนี้ว่า “มาจากอากาศที่ร้อนจัดและปัญหา PM 2.5 โดยบริษัทจะนำเสนอไลน์อัพสินค้าใหม่ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มาพร้อม กับ nanoeTM Technology ซึ่งมองว่าเครื่องปรับอากาศจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กลุ่มสินค้า”
 

นอกจากเรื่องของอินโนเวชันที่จะมาเป็นหัวหอกหลักในการเติบโตของตลาดเครื่องปรับอากาศเมืองไทยแล้ว สีสันการตลาดจากกลยุทธ์ “เซเลบริตี มาร์เก็ตติ้ง” ที่คว้าคนดังมาเป็นแรงดึงดูด สร้างความเชื่อมั่น และเรียกคะแนนนิยม ยังเกาะติดกันเหนียวแน่น เพราะเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อย ในหน้าร้อนนี้จึงยังเห็น “ณเดชน์” ควงคู่มากับไดกิ้น “โป๊ป-ธนวรรธน์” กับมิตซูบิชิ หรือ “น้องนาย-ณภัทร” กับพานาโซนิค หรือจะเป็น “ทอม รูม39” กับแคเรียร์ ฯลฯ งานนี้ใครจะได้แชร์ตลาดเครื่องปรับอากาศในหน้าร้อนนี้ไปครอง ยังต้องจับตาดูกันต่อไป...
 

หน้า 32 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,448 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2562

คุยกับฐาน ทันทุกข่าวสาร แค่เพิ่มเราเป็นเพื่อน LINE : @THANSETTAKIJ 
เพิ่มเพื่อน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว