บ้านปู เพาเวอร์กำไรโต29% ทยอยจ่ายไฟฟ้าตั้งเป้า7ปีกำลังผลิต 4.3 พันMW

28 ก.พ. 2562 | 10:44 น.
 

บ้านปู เพาเวอร์ ปลื้มกำไรปี 61 เติบโต 4,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% ชี้ปัจจัยมาจากส่วนแบ่งกำไรของโรงไฟฟ้าหงสาที่เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมจ่ายไฟฟ้าเพิ่มอีก 3 แห่ง กำลังผลิตรวม 77 เมกะวัตต์ ในจีน และญี่ปุ่น  คาดในปีนี้ จ่ายไฟฟ้าได้เพิ่มอีก 6 แห่ง 114 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าขยายกำลังผลิตให้ได้มากกว่า 4,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568

นายสุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานในปี 2561 ว่า ในปีที่ผ่านมา บ้านปู เพาเวอร์ฯ ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการดำเนินการผลิตและจ่ายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ โดยดัชนีค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าหงสาและโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีที่สูงถึงกว่า 87 % รวมทั้งการนำโรงไฟฟ้าเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ตามแผน ทำให้ปัจจุบัน มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนของโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้วรวม 2,145 เมกะวัตต์ 046

ประกอบกับประสบความสำเร็จในการเข้าไปลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนามเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นไปตามทิศทางการกระจายการลงทุนให้ครอบคลุมหลากหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และเปิดโอกาสให้บ้านปู เพาเวอร์ฯ ขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าอื่นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ (เจแปน) จำกัด สาขาโตเกียว สำนักงานใหม่อย่างเป็นทางการ และจัดตั้งสำนักงานขึ้นในประเทศเวียดนาม สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนตามกลยุทธ์ Greener อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าไปลงทุนใน ญี่ปุ่นและเวียดนาม เป็นประเทศที่มีศักยภาพทั้งในด้านความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงและมีนโยบายส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนที่ชัดเจนจากรัฐบาล

โดยในปี 2561 บ้านปู เพาเวอร์ฯ มีรายได้รวม 6,322 ล้านบาท จากธุรกิจไฟฟ้าในจีน ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 6 แห่ง จำนวน 714 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมจำนวน 5,608 ล้านบาท ซึ่งลดลงเล็กน้อยเนื่องจากราคาต้นทุนถ่านหินในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่บริษัทฯ ก็ยังคงสร้างกำไรได้โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 20% อีกทั้งยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 4,767 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 29% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าหงสาจำนวน 3,418 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินแล้ว 24.5 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ที่แม้จะมีการปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ตามแผน (Extended Major Overhaul: EMJ) ซึ่งแล้วเสร็จก่อนกำหนดการ มีส่วนแบ่งกำไร 1,340 ล้านบาท (รวมผลขาดทุนจากการแปลงค่าเงินแล้ว 55 ล้านบาท และภาษีเงินได้รอตัดบัญชี 83 ล้านบาท) ลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังรับรู้เงินปันผลจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 20 ล้านบาท

[caption id="attachment_396183" align="aligncenter" width="503"] DCIM/PANORAMA/100_0232/DJI DCIM/PANORAMA/100_0232/DJI[/caption]

ปัจจุบัน บ้านปู เพาเวอร์ฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าและโรงไฟฟ้าทั้งหมด 28 แห่ง แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว 17 แห่ง และอยู่ระหว่างการพัฒนา 11 โครงการ กำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม 2,869 เมกะวัตต์ ส่วนกำลังผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวมของโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว คิดเป็น 2,145 เมกะวัตต์เทียบเท่า ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป 1,955 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 190 เมกะวัตต์  อีก 724 เมกะวัตต์ จะทยอย COD จนครบภายในปี 2566

นอกจากนี้ บ้านปู เพาเวอร์ฯ จะยังคงศึกษาและมองหาโอกาสในการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าโดยผสมผสานทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนอย่างสมดุล เพื่อสร้างเสถียรภาพและความยั่งยืนทางด้านพลังงาน โดยมุ่งขยายธุรกิจไปในประเทศที่มีศักยภาพและประเทศที่ มีธุรกิจอยู่  และเชื่อมั่นว่าความสามารถและประสบการณ์การดำเนินงานในหลายประเทศ สถานะการเงินที่แข็งแกร่ง และการผนึกกำลังระหว่างธุรกิจที่เกี่ยวข้องภายในกลุ่มบ้านปูฯ จะทำให้บ้านปู เพาเวอร์ฯ ขยายกำลังการผลิตได้มากกว่า 4,300 เมกะวัตต์ โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 20% ภายในปี 2568 พร้อมทั้งรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่เติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว-8