ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ประชารัฐ สร้างชาติ จุดเปลี่ยนความคิดประชาชน

27 ก.พ. 2562 | 14:18 น.
หนังสือ-001 พปชร.
พรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” ที่พรรคจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเบื้องหลังความมุ่งมั่นพยายามของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการพลิกฟื้นประเทศ สร้างผลงานต่างๆ หลังวิกฤติการเมืองของประเทศ โดยหนังสือมีเนื้อหาหลักๆ แบ่งเป็น 5 บท ได้แก่

1. ล้มลุกคลุกคลาน 2. ยืนหยัดอย่างมั่นคง 3. บุรุษที่ใช่ 4. คืนความสุข 5. เปิดปูมชีวิตสู่ความสำเร็จ ซึ่งผู้เขียนยังไม่มีโอกาสได้อ่านโดยละเอียดทั้งเล่ม แต่ก็ได้อ่านบทสรุปคัดย่อจากสื่อฉบับต่างๆ และติดตามทางโซเชียล ซึ่งกำลังปรากฏเป็นข่าวฮอตฮิตในขณะนี้ เนื้อหาโดยสรุปนับว่าน่าสนใจอย่างยิ่ง ดังนี้

บทที่ 1 ล้มลุกคลุกคลาน เป็นบทที่สะท้อนปัญหาวิกฤติการเมืองของประเทศไทยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองว่า เศรษฐกิจตกต่ำถึงขีดสุดเพียงใด ความเชื่อมั่นของชาวโลกต่อไทยแทบหมดสิ้น ทั้งหมดเป็นผลพวงมาจากผู้มีอำนาจบริหารบ้านเมืองผิดพลาดเสียหาย มีพฤติกรรมสั่งสมการทุจริตประพฤติมิชอบ ผลาญเงินภาษีประชาชนเพื่อประโยชน์ทางการเมือง

20190225115524_new18

ระบบสภาผู้แทนและระบอบประชาธิปไตยล้มเหลว ประเทศเจอทางตัน เมื่อมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรม จนนำไปสู่การต่อต้านเป็นชนวนความขัดแย้งทางการเมือง เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง มีการใช้อาวุธสงครามทำร้ายเข่นฆ่าประชาชน จึงเป็นเหตุผลจำเป็นในการเข้ามาของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อแก้ปัญหาและรักษาความสงบเรียบร้อย ยุติความสูญเสียชีวิตและการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนไทยผู้บริสุทธิ์

บทที่ 2 ยืนหยัดอย่างมั่นคง เป็นการนำเสนอเรื่องราวและเหตุการณ์นับตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตัดสินใจเสียสละเข้ามากอบกู้ประเทศชาติ สร้างความสามัคคีของประชาชนในชาติ ประกาศคืนความสุขให้กับประชาชนอย่างไร สามารถยุติปัญหาความขัดแย้ง สะสางปัญหาโครงการรับจำนำข้าวที่สร้างความเสียหาย สร้างรอยยิ้มให้ชาวนา จัดระเบียบสังคมปราบอิทธิพลมาเฟีย เดินหน้าปฏิรูปประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจ และกำหนดทิศทางประเทศใหม่

สามารถนำประเทศออกจากหลุมดำกลับมามีความหวัง สามารถยืนหยัดบนเวทีโลก สร้างการยอมรับและความเชื่อถือจากนานาชาติ

[caption id="attachment_394787" align="aligncenter" width="500"] ข้าพระบาท ทาสประชาชน : ประชารัฐ สร้างชาติ  จุดเปลี่ยนความคิดประชาชน เพิ่มเพื่อน [/caption]

บทที่ 3 บุรุษที่ใช่  เป็นการนำเสนอตัวตนปลอกเปลือกชีวิต “นายกฯลุงตู่” ทั้งเกียรติประวัติชีวิตชายชาติทหาร ภาวะความเป็นผู้นำ นิสัยใจคอ บุคลิกภาพที่ดูแข็งกร้าวแต่ยังเป็นที่รักของผู้คนทุกเพศทุกวัย ได้รับการยอมรับจากผู้นำนานาชาติทั้งเอเชีย ยุโรป และอเมริกา ผลสำรวจความนิยมผู้ที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1

บทที่ 4 คืนความสุข ได้นำเสนอผลงานนับตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยผลงานที่ทำได้จริงมิใช่เพียงโฆษณา ชวนเชื่อ หรือโอ้อวด เช่น การแก้หนี้นอกระบบ ปลดกองทุกข์ประชาชน ตั้งศูนย์ดำรงธรรมเป็นที่พึ่งประชาชน แก้ปัญหาความเดือดร้อน ยังมีผลงานบัตรความสุขสิทธิพิเศษภายในบัตรสนับสนุนค่าใช้จ่าย บ้านประชารัฐ ล้านหลัง แก้ปัญหาที่ทำกิน รัฐได้ป่าชาวบ้านได้ที่ทำกิน ปลูกไม้ได้หลักประกัน สร้างระบบรางทั่วไทย เชื่อมไทยเชื่อมโลก เดินหน้าโครงการอีอีซี พื้นที่เศรษฐกิจใหม่และผลงานอื่นๆ อีกมากมายในรอบ 4 ปี

บทที่ 5 เปิดปูมชีวิตสู่ความสำเร็จ หนังสือได้นำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวประวัติชีวิต เด็กชายตู่สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย และยังได้บอกเล่าถึงบุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “ลุงตู่” ที่มีศรีภริยา สตรีหมายเลข 1 เคียงข้าง และมีส่วนสำคัญถึงความสำเร็จ รวมถึงคณาจารย์ที่อบรมสั่งสอน และมุมมองของสื่อมวลชน

หน้าท้ายๆ ยังได้นำเสนออิริยาบถ “ลุงตู่” ที่คนไทยไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เป็นมุมสบายๆ สไตล์ลุงตู่

การนำเสนอหนังสือดังกล่าว เป็นการนำเสนอเรื่องราวและความเป็นไปถึงเหตุผลและความจำเป็นว่า ทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องเข้ามาควบคุมอำนาจการปกครองประเทศในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้น และเป็นการตอบคำถามข้อข้องใจของประชาชน

และแก้ข้อกล่าวหาหรือการโจมตีจากคู่แข่งทางการเมืองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ที่ยังหลงบูชานับถือซาตาน เทพบุตรการเมืองจอมโกง ที่ยังเวียนว่ายตายเกิดมาสร้างปัญหาและความวุ่นวายในประเทศไม่จบสิ้น ให้พวกเขาได้หูตาสว่าง พบความจริงของบ้านเมือง

7DC76C0727C8493DA31A36EE903F1413

ผมได้อ่านและได้เห็นเนื้อหาและรูปโฉมของหนังสือเล่มนี้แล้ว ไม่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์หรือโต้แย้งใดๆ เพียงแต่รู้สึกว่าหนังสือหรือการสื่อสารทำนองนี้ออกมาช้าไป ทั้งที่เป็นเรื่องที่ควรสื่อสารทำความเข้าใจต่อประชาชนอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มแรกและกระทำเป็นระยะๆ เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ยังบูชาหลงใหลและงมงายกับนักการเมืองจอมโกง นักประชาธิปไตยจอมปลอม

แต่รัฐบาลทั้ง 2 ยุคที่มาจากทหารคือ รัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ และรัฐบาลปัจจุบัน มักมองข้ามและไม่ยอมทำ ในเวลาที่ถูกโจมตีด้วยข้อหาต่างๆ ก็มักจะใช้อารมณ์โต้ตอบโดยไม่ใช้เหตุผลชี้แจง โดยลืมไปว่าหากจะเอาชนะทางการเมืองโดยเด็ดขาดได้ ต้องเอาชนะทางความคิดเท่านั้น

การที่จะเอาชนะใจประชาชน(เสื้อแดง) ภาคเหนือ อีสาน ที่ยังหลงใหลอยู่กับนักโทษหนีคดี และยังศรัทธางมงายอยู่กับพรรคการเมืองในสังกัดของเขา ฝ่ายกุมอำนาจรัฐจำต้องทำสงครามความคิด ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ให้การศึกษาและคำอธิบายชี้แจงตอบโต้ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริง มากกว่าการใช้อารมณ์

หากนายกรัฐมนตรี และทีมงานที่เกี่ยวข้อง ได้ใช้กระบวนการนำเสนอให้ความรู้ ความจริง ตอบชี้แจงทุกเรื่องด้วยเหตุผลที่เต็มเปี่ยมด้วยข้อมูลข้อเท็จจริง ในท่วงทำนองแบบที่นำเสนอหนังสือ “ประชารัฐ สร้างชาติ” เช่นนี้ มาโดยต่อเนื่องให้ซึมซับไปในความคิดความรับรู้ของประชาชน มาเสียแต่ต้นโดยลำดับแล้ว ย่อมสามารถสร้างจุดเปลี่ยนทางความคิดของประชาชน ให้มีความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อรัฐบาล และต่อตัวผู้นำประเทศได้

ประชาชนก็จะได้ไม่ต้องผวากับ ระบอบโคตรโกง การเมืองสามานย์ ฟื้นอำนาจอีกครั้ง ความเชื่อมั่นที่ประชาชนทั้งหลาย จะร่วมทางเดิหน้าปฏิรูปประเทศ ด้วยการเดินเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้ง เพื่อร่วมฝัง “ระบอบทักษิณ” ให้สิ้นจากแผ่นดินไทย ก็จะปรากฏเป็นจริงขึ้นได้

| คอลัมน์ : ข้าพระบาท ทาสประชาชน
|  โดย : ประพันธุ์ คูณมี
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3448 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค.2562
595959859


[caption id="attachment_395287" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]