น้องใหม่ "สโคป" ปักหมุดโครงการแรกที่หลังสวน ราคา 5 แสนบาท/ตร.ม.
'ยงยุทธ' จับมือค่ายใหญ่เอสซีฯ ตั้ง "สโคป" ฉีกแบบแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิม เจาะลูกค้าคอนโดฯ กลุ่มใหม่ "อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม" ไม่มีกรอบในเรื่องราคา นำร่องโครงการหลังสวน ขาย 5 แสนบาทต่อ ตร.ม.
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากมายในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและมีการทำโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับพรีเมียมออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นสัญญาณสะท้อนว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าเดิมกำลังขยายตัว เนื่องจากพฤติกรรมและความคาดหวังของคนซื้อที่อยู่อาศัยนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก
ตอนนี้ได้เกิดกลุ่มผู้ซื้อบ้านกลุ่มใหม่ขึ้นในประเทศไทย คือ คนที่เติบโตในยุคอินเตอร์เน็ต ยุคที่สามารถเห็นและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสุดยอดบนโลกได้อย่างง่ายดายผ่านทางเว็บไซต์ หรือเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมามากและได้เห็นมาหมด เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแต่สิ่งที่ดีที่สุด เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมดีระดับมาตรฐานสากล และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์และคุณภาพการก่อสร้างในมาตรฐานระดับเดียวกันกับที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดีในต่างประเทศ เราเรียกกลุ่มนี้ "อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม"
ลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร หากโครงการที่อยู่อาศัยที่ออกแบบและก่อสร้างให้มีคุณภาพดี จะมีคนสนใจซื้อเสมอ ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เอง ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือ ซื้อเพื่อการลงทุน ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านกลุ่มใหม่นี้ คือ ตลาดใหม่ที่บริษัทกำลังบุกเบิก
สำหรับสโคปเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่มีการจัดโครงสร้างองค์กรแบบพิเศษ แตกต่างจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดระดับสากล โดยได้รับการสนับสนุนจาก บมจ.เอสซี แอสเสท ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของประเทศไทย มาร่วมก่อตั้ง บริษัท สโคป "เพื่อให้สโคปมีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดสำหรับการทำโครงการที่ดีที่สุดออกมาเสมอ"
โครงการแรกของสโคปจะสร้างขึ้นบนที่ดินทำเลทองใจกลางเมือง ขนาด 2 ไร่ บนถนนหลังสวน ซึ่งมูลค่าที่ดินในปัจจุบันสูงกว่า 3 ล้านบาทต่อตารางวา โดยมีมูลค่ารวมของโครงการอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท ราคาขายเบื้องต้น 5 แสนบาทต่อตารางเมตร และก่อนสิ้นปี 2563 สโคปมีแผนจะเปิดตัวอีก 2 โครงการ ที่ย่านทองหล่อและถนนสุขุมวิท
นายยงยุทธ ประเมินว่า "มีความต้องการคอนโดมิเนียมมาตรฐาน "อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม" ประมาณ 6,500 ยูนิตต่อปี ในทุกระดับราคา ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับ บริษัท สโคป คาดการณ์ว่า ลูกค้าของสโคปจะเป็นคนไทยรุ่นใหม่ ผู้มีฐานะและรสนิยมที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล ประมาณ 80% และเป็นชาวต่างชาติ ผู้มองหาที่พักอาศัยคุณภาพระดับอินเตอร์เนชันแนลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ประมาณ 20%"
นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการริเริ่มสร้างสรรค์ใหม่ ๆ มากมายในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและมีการทำโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับพรีเมียมออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นสัญญาณสะท้อนว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าเดิมกำลังขยายตัว เนื่องจากพฤติกรรมและความคาดหวังของคนซื้อที่อยู่อาศัยนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก
ตอนนี้ได้เกิดกลุ่มผู้ซื้อบ้านกลุ่มใหม่ขึ้นในประเทศไทย คือ คนที่เติบโตในยุคอินเตอร์เน็ต ยุคที่สามารถเห็นและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นสุดยอดบนโลกได้อย่างง่ายดายผ่านทางเว็บไซต์ หรือเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมามากและได้เห็นมาหมด เป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการแต่สิ่งที่ดีที่สุด เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมดีระดับมาตรฐานสากล และเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์และคุณภาพการก่อสร้างในมาตรฐานระดับเดียวกันกับที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพดีในต่างประเทศ เราเรียกกลุ่มนี้ "อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม"
ลูกค้ากลุ่มใหม่นี้ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร หากโครงการที่อยู่อาศัยที่ออกแบบและก่อสร้างให้มีคุณภาพดี จะมีคนสนใจซื้อเสมอ ไม่ว่าจะซื้อเพื่ออยู่เอง ซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง หรือ ซื้อเพื่อการลงทุน ดังนั้น ผู้ซื้อบ้านกลุ่มใหม่นี้ คือ ตลาดใหม่ที่บริษัทกำลังบุกเบิก
สำหรับสโคปเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่มีการจัดโครงสร้างองค์กรแบบพิเศษ แตกต่างจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดระดับสากล โดยได้รับการสนับสนุนจาก บมจ.เอสซี แอสเสท ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนที่ใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรกของประเทศไทย มาร่วมก่อตั้ง บริษัท สโคป "เพื่อให้สโคปมีความมั่นคงทางการเงินสูงสุดสำหรับการทำโครงการที่ดีที่สุดออกมาเสมอ"
โครงการแรกของสโคปจะสร้างขึ้นบนที่ดินทำเลทองใจกลางเมือง ขนาด 2 ไร่ บนถนนหลังสวน ซึ่งมูลค่าที่ดินในปัจจุบันสูงกว่า 3 ล้านบาทต่อตารางวา โดยมีมูลค่ารวมของโครงการอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท ราคาขายเบื้องต้น 5 แสนบาทต่อตารางเมตร และก่อนสิ้นปี 2563 สโคปมีแผนจะเปิดตัวอีก 2 โครงการ ที่ย่านทองหล่อและถนนสุขุมวิท
นายยงยุทธ ประเมินว่า "มีความต้องการคอนโดมิเนียมมาตรฐาน "อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมียม" ประมาณ 6,500 ยูนิตต่อปี ในทุกระดับราคา ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 90,000 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับ บริษัท สโคป คาดการณ์ว่า ลูกค้าของสโคปจะเป็นคนไทยรุ่นใหม่ ผู้มีฐานะและรสนิยมที่เป็นอินเตอร์เนชันแนล ประมาณ 80% และเป็นชาวต่างชาติ ผู้มองหาที่พักอาศัยคุณภาพระดับอินเตอร์เนชันแนลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ประมาณ 20%"
