"พปชร." รอคำตอบจาก กกต. ให้ "บิ๊กตู่" ดีเบต-หาเสียง ช่วยพรรคได้หรือไม่
"พุทธิพงษ์" พา "กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา" หาเสียงตลาดรวมทรัพย์ รอคำตอบจาก กกต. ให้ "บิ๊กตู่" ดีเบต-หาเสียงช่วยพรรคได้หรือไม่
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ช่วย นางสาวกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนบริเวณตลาดรวมทรัพย์
นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า การส่งจดหมายสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ถึงแนวทางและการปฎิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า สามารถช่วยพรรคในการหาเสียงหรือขึ้นเวทีดีเบตได้หรือไม่ อย่างไรบ้างนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำตอบและจะปฏิบัติตามแนวทางของ กกต. ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรหลักในเรื่องของการเลือกตั้งและเป็นองค์กรที่ชี้ขาดในเรื่องนี้ ซึ่งทางพรรคมีความประสงค์ต้องการให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมีโอกาสได้ช่วยหาเสียง พูดคุยเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น แต่ที่ผ่านมาด้วยข้อจำกัด พรรคก็เข้าใจ และปฏิบัติตามมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อ กกต. ตีความออกมาแล้ว ก็อยากจะให้ทุกพรรคเชื่อในคำตัดสินชี้ขาดของ กกต. เช่นกัน
ทั้งนี้ หากมีคำชี้ขาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถช่วยหาเสียง ขึ้นเวทีดีเบต หรือจะไปที่ปราศรัยแบบมีข้อจำกัดอยู่บ้างพรรค ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทุกอย่างอย่างเคร่งครัด ถือว่าเป็นกติกาที่ต้องปฏิบัติตาม
นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลเตรียมร้องให้ตรวจสอบนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงของพรรคการเมือง เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องทำได้ยากหรือเป็นนโยบายขายฝัน ว่า เป็นเรื่องที่ดีและทางพรรคยินดีให้มีการตรวจสอบ เพราะนโยบายหาเสียงควรจะเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริงและเป็นประโยชน์กับประชาชน และเห็นว่าความเป็นประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่สามารถตรวจสอบได้ แต่ควรจะมีการตรวจสอบกันในทุกพรรคการเมือง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่าจงใจพุ่งเป้าตรวจสอบไปที่พรรคคู่แข่งทางการเมืองเท่านั้น
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ช่วย นางสาวกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ผู้สมัคร ส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชนบริเวณตลาดรวมทรัพย์
นายพุทธิพงษ์ ระบุว่า การส่งจดหมายสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ถึงแนวทางและการปฎิบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า สามารถช่วยพรรคในการหาเสียงหรือขึ้นเวทีดีเบตได้หรือไม่ อย่างไรบ้างนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอคำตอบและจะปฏิบัติตามแนวทางของ กกต. ซึ่งถือว่าเป็นองค์กรหลักในเรื่องของการเลือกตั้งและเป็นองค์กรที่ชี้ขาดในเรื่องนี้ ซึ่งทางพรรคมีความประสงค์ต้องการให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคมีโอกาสได้ช่วยหาเสียง พูดคุยเหมือนกับพรรคการเมืองอื่น แต่ที่ผ่านมาด้วยข้อจำกัด พรรคก็เข้าใจ และปฏิบัติตามมาโดยตลอด ซึ่งเมื่อ กกต. ตีความออกมาแล้ว ก็อยากจะให้ทุกพรรคเชื่อในคำตัดสินชี้ขาดของ กกต. เช่นกัน
ทั้งนี้ หากมีคำชี้ขาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถช่วยหาเสียง ขึ้นเวทีดีเบต หรือจะไปที่ปราศรัยแบบมีข้อจำกัดอยู่บ้างพรรค ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามทุกอย่างอย่างเคร่งครัด ถือว่าเป็นกติกาที่ต้องปฏิบัติตาม
นายพุทธิพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่มีบุคคลเตรียมร้องให้ตรวจสอบนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงของพรรคการเมือง เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องทำได้ยากหรือเป็นนโยบายขายฝัน ว่า เป็นเรื่องที่ดีและทางพรรคยินดีให้มีการตรวจสอบ เพราะนโยบายหาเสียงควรจะเป็นนโยบายที่สามารถทำได้จริงและเป็นประโยชน์กับประชาชน และเห็นว่าความเป็นประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่สามารถตรวจสอบได้ แต่ควรจะมีการตรวจสอบกันในทุกพรรคการเมือง ด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่าจงใจพุ่งเป้าตรวจสอบไปที่พรรคคู่แข่งทางการเมืองเท่านั้น
