เนอวานา ไดอิ ลุยตลาดแพงเต็มสูบ งัดกลยุทธ์”บลูโอเชี่ยน” ตีตลาดภูธร

26 ก.พ. 2562 | 08:45 น.
เนอวานา ไดอิ เดินหน้าโมเดล พัฒนาโครงการบนที่ดินพาร์ทเนอร์ กระจายเสี่ยงตลาดคอนโดฯนักลงทุนชะลอตัว ส่งผลตลาดแนวราบแข่งดุ ที่ดินหายาก พร้อมผุดธุรกิจใหม่ อาคารจอดรถ ประเดิมโครงการแรกซ.เฉยพ่วง

x นายศรศักดิ์ สมวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนอวานา ไดอิ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงแนวโน้มของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปี 2562 ว่าไม่ได้สดใสมากนัก เพราะทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ยังไม่ได้มีการขยายตัวในอัตราที่สูง ขณะเดียวกัน มีปัจจัยลบมากระทบตลาดรวมหลายอย่าง โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขยับตัวสูงขึ้น กฎระเบียบในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่เข้มงวดขึ้น รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับ พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย จึงเชื่อว่าตลาดคอนโดมิเนียมในกลุ่มนักลงทุนจะหดตัวมากกว่า 20% ส่งผลให้ผู้พัฒนาหนีตลาดดังกล่าว ลงมาแข่งขันในตลาดแนวราบระดับบนกันมากขึ้น เพราะเป็นเรียลดีมานด์ ได้รับผลกระทบน้อยสุด ทั้งกลุ่มบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ราคาแพง ซึ่งยังคงมีความต้องการของผู้บริโภค และยังสามารถเติบโตได้ในอัตราที่ดิน แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อจะทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้น โดยเฉพาะจะเกิดการแย่งชิงเรื่องที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด

y บริษัทจึงเดินหน้าพัฒนาธุรกิจบนแนวคิดใหม่ รับสร้างบ้านและบริหารการขาย (Turnkey Solutions) ร่วมกับเจ้าของที่ดินหรือพาร์ทเนอร์ ซึ่งแตกต่าง และมีความน่าสนใจกว่าการร่วมทุน เนื่องจาก ช่วยลดข้อจำกัดในการหาที่ดินเพื่อพัฒนา แต่จะใช้ที่ดินเดิมของพาร์ทเนอรซึ่งมีศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด์พัฒนาโครงการในรูปแบบของเนอวานา ซึ่งขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้ว 1 โปรเจ็กต์ ในทำเลโดดเด่นของจังหวัดอุดรธานี ติดหนองประจักษ์ ภายใต้ชื่อ Nirvana Beyone อุดรธานี ล่าสุดได้รับการตอบรับอย่างดีจากคนในพื้นที่ มียอดขายรวม 9 หลัง จากจำนวน 40 หลังที่จะเริ่มก่อสร้างและเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ ในราคาขายเริ่มต้น 29 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ทเนอร์รายอื่นๆอีกหลายราย ในทำเลที่สนใจ เช่น ภูเก็ต ศรีราชา(ชลบุรี) โคราช เชียงใหม่ และขอนแก่น เป็นต้น

z "ปัญหาของอสังหาฯไทย คือ ผู้พัฒนาต้องเป็นทั้งดีเวลลอปเปอร์ และเทรดดิ้งหาซื้อที่ดิน แม้พอจะหาซื้อที่กันได้ แต่กลับไม่ได้อยู่ในทำเลที่ดี ต่างจากการเข้าไปรับสร้างบ้านบนที่ดินที่ไพร์ม เป็นกลยุทธ์บลูโอเชี่ยนของเรา ที่จะขยายธุรกิจโดยไม่ต้องหาที่ดินเอง เจ้าของได้ค่าที่ดิน เราได้ค่าบ้าน "

นอกจากนี้ บริษัทยังต้องการขยายสัดส่วนของรายได้รวม มาสู่ธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ควบคู่กับการพัฒนาโครงการเพื่อขายเช่นกัน โดยกำลังดำเนินการในส่วนธุรกิจอาคารจอดรถ (Park&Line) เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่จอดรถไม่เพียงพอในเมืองหลวง ซึ่งคนทำงานบางส่วนต้องการจอดรถทิ้งไว้เพื่อต่อระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ แต่มีข้อจำกัดถึงสถานที่ โดยธุรกิจดังกล่าว ใช้เงินทุนไม่สูง แต่รายได้ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างในโปรเจ็กต์แรก บนที่ดินเช่า เนื้อที่ 2 ไร่ ซ.เฉยพ่วง วิภาวดี-รังสิต จำนวน 2 อาคาร รองรับที่จอดรถอาคารละ 350 คัน รวมทั้งสิ้น 700 คัน คาดจะมีรายได้เข้ามางวดแรกในช่วงเดือนเมษายนนี้ ขณะที่เป้าหมายระยะยาว ตั้งงบลงทุนในธุรกิจดังกล่าว 40-50 ล้านบาทต่อปี ซึ่งปีหน้าจะเห็นความชัดเจนในโครงการอื่นๆตามมา เพื่อผลักดันให้บริษัทมีรายได้จากธุรกิจสร้างรายได้ประจำอยู่ที่ 20-30% ต่อปี

090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503 ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจ ปี 2562 นั้น บริษัทมีแผนลงทุน 1.7 หมื่นล้านบาท เปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ ซึ่งประกอบไปด้วยโครงการบ้านเดี่ยว 7 โครงการ ทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ และคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ทั้งมีแบรนด์เก่าและแบรนด์ใหม่ อย่างคอนโดฯโครงการ The Most by Nirvana ย่านอิสรภาพและประชาชื่น ราคาขาย 2-6 ล้านบาท/ยูนิต ส่วนโครงการแนวราบจะมี 2 แบรนด์ใหม่ คือ แบรนด์ Nirvana ELEMENT ราคาขาย 8-15 ล้านบาท เจาะทำเลย่านบางนาและกรุงเทพกรีฑาขณะที่แบรนด์ Nirvana COLLECTION เป็นโครงการบ้านหรูระดับราคา 40-90 ล้านบาท อยู่ระหว่างการเตรียมพัฒนา

ทั้งนี้ ปี 2562 บริษัท ตั้งเป้ายอดขายเติบโตกว่า 100% จาก 2.6 พันล้านบาทเมื่อปี 2561 ที่มากกว่า 5.2 พันล้านบาท ส่วนเป้ารายได้ อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากยอดโอนของโครงการคอนโดมิเนียมหรู บันยันทรีเรสซิเดนซ์ ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (Banyan Tree Residences RiversideBangkok) จำนวน 2.5 พันล้านบาท และโครงการแนวราบอีกบางส่วน 595959859