เอ็นไอเอ พาสตาร์ทอัพไทย สู่ตลาดลาตินอเมริกา เซ็นเอ็มโอยูกับมหาวิทยาลัยชิลี ตั้งเป้าสานความร่วมมือด้านระบบนิเวศ - ย่านนวัตกรรม พร้อมดึงการลงทุนสู่ไทยและอาเซียน
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับสาธารณรัฐชิลี ดำเนินความร่วมมือส่งเสริมนวัตกรรมและสตาร์ทอัพระหว่าง 2 ประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศของสตาร์ทอัพ การเพิ่มโอกาสธุรกิจนวัตกรรมผ่านกิจกรรมและอีเวนท์ เช่น การประชุมและสัมมนานานาชาติ การเวิร์คชอป รวมถึงการยกระดับนวัตกรรมเชิงพื้นที่ (ย่านนวัตกรรม)
นอกจากนี้ NIA มหาวิทยาลัยสุรนารี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ยังได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับมหาวิทยาลัย Catolica ของชิลี เพื่อดำเนินความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพและนวัตกรรมระหว่างไทยกับภูมิภาคอเมริกาใต้ ซึ่งจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ให้กับสตาร์ทอัพทั้งสองประเทศ และคาดว่าจะเป็นโอกาสในการดึงธุรกิจและการลงทุนสู่ไทยและอาเซียนได้เป็นอย่างดี
คณะผู้แทนจาก NIA สมาคมไทยผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน มหาวิทยาลัยสุรนารี และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เดินทางไปยังสาธารณรัฐชิลี เพื่อศึกษางานด้านระบบนิเวศสตาร์ทอัพ การแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือในด้านสตาร์ทอัพระหว่างสองประเทศ โดยคณะผู้แทนได้ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ของชิลี ได้แก่ กระทรวงเศรษฐกิจ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจชิลี (Chilean Production Development Agency: CORFO) สตาร์ทอัพชิลี และ Laboratorio de Gobierno ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่เสมือนห้องปฏิบัติการทางภาครัฐ พร้อมด้วยการพัฒนา อำนวยความสะดวก และส่งเสริมกระบวนการสร้างนวัตกรรม
ชิลีเป็นประเทศที่มีโอกาส และความสามารถในการพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรม วิสาหกิจเริ่มต้น การทูตนวัตกรรม และนวัตกรรมเชิงพื้นที่ (ย่านนวัตกรรม) ร่วมกันสูงมากประเทศหนึ่ง โดยระบบนิเวศการลงทุน เป็นประเด็นที่ทางสาธารณรัฐชิลีสนใจ เนื่องจากประเทศไทยมีบริษัทขนาดใหญ่ที่พร้อมให้การลงทุน (CVC) และ การระดมทุน (VC) จำนวนมาก ทาง CORFO และ Startup Chile จึงต้องการองค์ความรู้จากประเทศไทยเพื่อนำไปพัฒนาระบบนิเวศการลงทุน ของสาธารณรัฐชิลี
ด้านนางศริกานต์ พลมณี เอกอัครราชฑูตไทยประจำกรุงซานติอาโก ประเทศชิลี กล่าวว่า นโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาลไทยมุ่งหวังการพัฒนาประเทศสู่ยุคอุตสาหกรรมใหม่ด้วยการผลิตและการบริการที่มีฐานของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัฐบาลได้เอื้ออำนวยนักลงทุนต่างชาติผ่านสิทธิประโยชน์ รวมทั้งการออก “สมาร์ทวีซ่า” ให้แก่ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมอนาคตในประเทศไทย
รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของสตาร์ทอัพในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ จึงส่งเสริมการพัฒนาสตาร์ทอัพผ่านการทำงานของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับการร่วมมือระหว่างไทยและชิลีในครั้งนี้ คาดว่าจะช่วยเชื่อมโยงและสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการได้มากยิ่งขึ้น