เบรก สนช. !! ชะลอร่างกฎหมายข้าว
ร้อนทั้งแผ่นดิน! 26 จังหวัดสภาเกษตร บุกยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณ หวัง สนช. ชะลอร่างกฎหมายข้าว ผวาร่างบังคับใช้ชาวนาเสียเปรียบ ด้าน โรงสีแจงข้อมูลละเอียดยิบ ปัญหาเพียบ ขณะที่ สมาคมชาวนาลุ้นปาฎิหารย์อีกครั้ง คว่ำกลางสภา หรือ กมธ. เปลี่ยนใจถอดกฎหมายทิ้ง
นายธวัชชัย ถนอมลิขิต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดภาคกลาง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า วันนี้ (25 ก.พ. 62) เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชะลอร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ. .... (อยู่ระหว่างการพิจารณา) ให้ชะลอออกไปก่อน ซึ่งเป็นมติของทางสภาเกษตรกลุ่มจังหวัดภาคกลาง 26 จังหวัด และขอให้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง โดยให้สภาเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดมีส่วนร่วม และได้แสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาร่างดังกล่าวด้วย
สืบเนื่องจาก พ.ร.บ.ข้าว มีผู้มีส่วนได้เสียหลายส่วน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อีกทั้งในการเสนอร่างพระราชบัญญัติยังขาดการมีส่วนร่วม เพราะปัจจุบัน เกษตรกรยังไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจน รวมทั้งเนื้อหาหลักการของร่างดังกล่าวเป็นอย่างไร
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยหลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญแถลงข่าวร่างพระราชบัญญัตติข้าว พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านทางไลฟ์สดจากสื่อ "ฐานเศรษฐกิจ" ในวันที่ 25 ก.พ. 2562 เพื่อที่จะใช้เตรียมนำเข้าสู่การพิจารณา ในวันที่ 26 ก.พ. 2562 สำหรับวาระที่ 2 และ 3 จึงขอเชิญชวนท่าน ๆ ที่สนใจ ให้เข้าไปรับฟัง ศึกษา และพยายามทำความเข้าใจในประเด็นข้อกฎหมายและรายละเอียดของร่างฯ ฉบับนี้อย่างละเอียดลึกซึ้ง เนื่องจากจะมีความเกี่ยวข้องกับท่านที่มีส่วนในระบบค้าข้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"ในส่วนตัว ผมคิดว่า สิ่งสำคัญของร่างฯ นี้ คือ เนื้อหลักใจความ วิธีการปฏิบัติที่จะต้องทำได้จริง และสอดคล้องไปกับวัตถุประสงค์ของร่างฯ ซึ่งจะต้องเป็นการต่อเชื่อมการพัฒนาได้อย่างไร้รอยต่อ จากหลักเดิมที่ผู้เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติกันอยู่แล้ว จึงจะเป็นการก่อให้เกิดผลสำเร็จอันมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อห่วงโซ่ ทั้งด้านการตลาดและการผลิตอย่างแท้จริง ซึ่งการตลาดในที่นี้ หมายถึง "ตลาดสินค้าข้าวสาร ทั้งบริโภคภายในและต่างประเทศ" ซึ่งจะเป็นตัวหลักในการกำหนดราคา และปริมาณ ทิศทาง และชนิดข้าวเปลือกที่จะต้องผลิต จึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงหลักความเป็นจริง"
"ข้าวเปลือกและข้าวสารนั้น เชื่อมโยงต่อกันอย่างแยกจากกันไม่ได้" การจะสร้างกลไกเพื่อบริหารจัดการทั้งระบบอย่างแท้จริง จะเกิดเพียงแค่ระหว่างชาวนาและโรงสีไม่ได้ แต่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเชื่อมต่อไปสู่ในส่วนของผู้ซื้อขายข้าวเปลือก โรงสี ผู้ซื้อเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ผู้ซื้อเพื่อการส่งออกต่างประเทศ และนายหน้าค้าข้าว (หยง)
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในเรื่องของข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเข้าใจก่อนว่า ข้อมูลด้านข้าวเปลือกจากผู้ค้าข้าวเปลือก หรือ โรงสี เป็นข้อมูลเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว ไม่สามารถใช้ในเชิงบริหารได้ครบถ้วนและลึกซึ้งตรงจุดได้ทุกด้าน ถ้าต้องการข้อมูลในเชิงบริหารอย่างแท้จริง ที่สามารถนำไปใช้ในภาคการผลิตได้ตรงและตอบโจทย์ภาคการตลาดด้วย จะต้องใช้ข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้าน
นอกจากผู้ซื้อขายข้าวเปลือกและโรงสีแล้ว ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ด้านข้าวสาร ทั้งในตลาดบริโภคภายในและต่างประเทศต่างได้รับมาจากผู้ซื้อเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ผู้ซื้อเพื่อการส่งออกต่างประเทศ และนายหน้าค้าข้าว (หยง) ซึ่งเป็นนายหน้าตัวกลางที่สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญด้านความต้องการของผู้บริโภคได้ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งหมดนี้นั้น จึงจะมีประสิทธิภาพเพื่อนำมาประกอบการวางกรอบนโยบายบริหารได้อย่างถูกต้อง จึงจะเรียกได้ว่า การบริหารจัดการตลอดทั้งห่วงโซ่อย่างแท้จริง
นอกเหนือไปจากการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการ คือ เรื่องการบริหารจัดการข้อมูลเชิงบริหารที่ได้มาจากผู้มีส่วนร่วมและส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวางกลยุทธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศและข้อมูลทางธุรกิจ และถือได้ว่าเป็นข้อมูลภายในของฝ่ายบริหาร โดยหากมีการเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศมากเกินไป อาจเกิดการคาดเดาทิศทางตลาดข้าวของประเทศเราได้ ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อราคาซื้อขาย หรือ การต่อรองซื้อขายได้ หรือแม้แต่การที่มีผู้ไม่สุจริต เช่น เจ้าหน้าที่บางคนนำข้อมูลอินไซด์เหล่านี้ไปใช้หาผลประโยชน์ส่วนตน ก็จะก่อให้เกิดผลเสียได้
รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลทางธุรกิจของภาคเอกชน ที่มีกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขันที่ต่างกันไป (หากต้องนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดออกไป ก็อาจเป็นการลดศักยภาพด้านการแข่งขันของภาคเอกชนได้เช่นกัน) ดังนั้น จึงควรตระหนักถึงการกำหนดนโยบายรวบรวมข้อมูลและวิธีเสนอข้อมูลสู่สาธารณะ จึงเป็นเรื่องสำคัญในเชิงบริหารอีกจุดที่ต้องให้ความสำคัญ ควรกำหนดเรื่องการเสนอข้อมูล ควรแยกว่า ส่วนใดเป็นข้อมูลสาธารณะและข้อมูลส่วนใดเป็นข้อมูลภายใน เป็นต้น
ส่วนเรื่องของวิธีการปฏิบัติหรือกระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติใดใดที่จะต้องกำหนดเพิ่มเข้ามา จะต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมา ทั้งเรื่องความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติหรือแม้แต่ต้นทุนในการดำเนินการ ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ควรเป็นการขัดต่อเป้าหมายและหลักการที่วางไว้ในเบื้องต้น ครอบคลุมทั้งกระบวนการตลาดและการผลิตตลอดทั้งห่วงโซ่อย่างไม่สะดุด ซึ่งหากยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ถูกนำไปบังคับใช้ในขั้นตอนปฏิบัติ แล้วก่อให้เกิดอุปสรรคตามมาได้
ทั้งนี้ ทั้งปวงหากคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นสมควรที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็สุดแล้วแต่ท่านจะพิจารณา โดยทางสมาคมโรงสีข้าวไทยได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับร่างฯ ฉบับนี้ไปอย่างครบถ้วนแล้ว จึงหวังเพียงว่า ท่านสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะได้ดำเนินการพิจารณาด้วยความรอบคอบอย่างถี่ถ้วนจากข้อมูลทุกด้านที่นำเสนอไปทั้งหมด สุดท้ายนี้ ผมนั้นได้พยายามเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นอันสิ้นสุด
เช่นเดียวกับ นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวสั้น ๆ ว่า เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้จะมีปาฎิหารย์เห็นร่างคว่ำในสภา หรือ อาจจะถูกถอดในสภาไม่มีการพิจารณาใดใดเลย
นายธวัชชัย ถนอมลิขิต ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดภาคกลาง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า วันนี้ (25 ก.พ. 62) เดินทางไปยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชะลอร่าง พ.ร.บ.ข้าว พ.ศ. .... (อยู่ระหว่างการพิจารณา) ให้ชะลอออกไปก่อน ซึ่งเป็นมติของทางสภาเกษตรกลุ่มจังหวัดภาคกลาง 26 จังหวัด และขอให้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นอย่างทั่วถึง โดยให้สภาเกษตรจังหวัดทุกจังหวัดมีส่วนร่วม และได้แสดงความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาร่างดังกล่าวด้วย
สืบเนื่องจาก พ.ร.บ.ข้าว มีผู้มีส่วนได้เสียหลายส่วน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกข้าว อีกทั้งในการเสนอร่างพระราชบัญญัติยังขาดการมีส่วนร่วม เพราะปัจจุบัน เกษตรกรยังไม่มีความเข้าใจที่ชัดเจน รวมทั้งเนื้อหาหลักการของร่างดังกล่าวเป็นอย่างไร
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เปิดเผยหลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญแถลงข่าวร่างพระราชบัญญัตติข้าว พ.ศ. .... สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านทางไลฟ์สดจากสื่อ "ฐานเศรษฐกิจ" ในวันที่ 25 ก.พ. 2562 เพื่อที่จะใช้เตรียมนำเข้าสู่การพิจารณา ในวันที่ 26 ก.พ. 2562 สำหรับวาระที่ 2 และ 3 จึงขอเชิญชวนท่าน ๆ ที่สนใจ ให้เข้าไปรับฟัง ศึกษา และพยายามทำความเข้าใจในประเด็นข้อกฎหมายและรายละเอียดของร่างฯ ฉบับนี้อย่างละเอียดลึกซึ้ง เนื่องจากจะมีความเกี่ยวข้องกับท่านที่มีส่วนในระบบค้าข้าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"ในส่วนตัว ผมคิดว่า สิ่งสำคัญของร่างฯ นี้ คือ เนื้อหลักใจความ วิธีการปฏิบัติที่จะต้องทำได้จริง และสอดคล้องไปกับวัตถุประสงค์ของร่างฯ ซึ่งจะต้องเป็นการต่อเชื่อมการพัฒนาได้อย่างไร้รอยต่อ จากหลักเดิมที่ผู้เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติกันอยู่แล้ว จึงจะเป็นการก่อให้เกิดผลสำเร็จอันมีประสิทธิภาพสูงสุดต่อห่วงโซ่ ทั้งด้านการตลาดและการผลิตอย่างแท้จริง ซึ่งการตลาดในที่นี้ หมายถึง "ตลาดสินค้าข้าวสาร ทั้งบริโภคภายในและต่างประเทศ" ซึ่งจะเป็นตัวหลักในการกำหนดราคา และปริมาณ ทิศทาง และชนิดข้าวเปลือกที่จะต้องผลิต จึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงหลักความเป็นจริง"
"ข้าวเปลือกและข้าวสารนั้น เชื่อมโยงต่อกันอย่างแยกจากกันไม่ได้" การจะสร้างกลไกเพื่อบริหารจัดการทั้งระบบอย่างแท้จริง จะเกิดเพียงแค่ระหว่างชาวนาและโรงสีไม่ได้ แต่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องเชื่อมต่อไปสู่ในส่วนของผู้ซื้อขายข้าวเปลือก โรงสี ผู้ซื้อเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ผู้ซื้อเพื่อการส่งออกต่างประเทศ และนายหน้าค้าข้าว (หยง)
นายเกรียงศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในเรื่องของข้อมูลที่จะนำไปต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องเข้าใจก่อนว่า ข้อมูลด้านข้าวเปลือกจากผู้ค้าข้าวเปลือก หรือ โรงสี เป็นข้อมูลเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นข้อมูลเพียงด้านเดียว ไม่สามารถใช้ในเชิงบริหารได้ครบถ้วนและลึกซึ้งตรงจุดได้ทุกด้าน ถ้าต้องการข้อมูลในเชิงบริหารอย่างแท้จริง ที่สามารถนำไปใช้ในภาคการผลิตได้ตรงและตอบโจทย์ภาคการตลาดด้วย จะต้องใช้ข้อมูลให้ครบถ้วนทุกด้าน
นอกจากผู้ซื้อขายข้าวเปลือกและโรงสีแล้ว ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ด้านข้าวสาร ทั้งในตลาดบริโภคภายในและต่างประเทศต่างได้รับมาจากผู้ซื้อเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ ผู้ซื้อเพื่อการส่งออกต่างประเทศ และนายหน้าค้าข้าว (หยง) ซึ่งเป็นนายหน้าตัวกลางที่สามารถให้ข้อมูลที่สำคัญด้านความต้องการของผู้บริโภคได้ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ครอบคลุมทั้งหมดนี้นั้น จึงจะมีประสิทธิภาพเพื่อนำมาประกอบการวางกรอบนโยบายบริหารได้อย่างถูกต้อง จึงจะเรียกได้ว่า การบริหารจัดการตลอดทั้งห่วงโซ่อย่างแท้จริง
นอกเหนือไปจากการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการ คือ เรื่องการบริหารจัดการข้อมูลเชิงบริหารที่ได้มาจากผู้มีส่วนร่วมและส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการวางกลยุทธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศและข้อมูลทางธุรกิจ และถือได้ว่าเป็นข้อมูลภายในของฝ่ายบริหาร โดยหากมีการเสนอข้อมูลเชิงวิเคราะห์ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศมากเกินไป อาจเกิดการคาดเดาทิศทางตลาดข้าวของประเทศเราได้ ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีต่อราคาซื้อขาย หรือ การต่อรองซื้อขายได้ หรือแม้แต่การที่มีผู้ไม่สุจริต เช่น เจ้าหน้าที่บางคนนำข้อมูลอินไซด์เหล่านี้ไปใช้หาผลประโยชน์ส่วนตน ก็จะก่อให้เกิดผลเสียได้
รวมไปถึงข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลทางธุรกิจของภาคเอกชน ที่มีกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างด้านการแข่งขันที่ต่างกันไป (หากต้องนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ทั้งหมดออกไป ก็อาจเป็นการลดศักยภาพด้านการแข่งขันของภาคเอกชนได้เช่นกัน) ดังนั้น จึงควรตระหนักถึงการกำหนดนโยบายรวบรวมข้อมูลและวิธีเสนอข้อมูลสู่สาธารณะ จึงเป็นเรื่องสำคัญในเชิงบริหารอีกจุดที่ต้องให้ความสำคัญ ควรกำหนดเรื่องการเสนอข้อมูล ควรแยกว่า ส่วนใดเป็นข้อมูลสาธารณะและข้อมูลส่วนใดเป็นข้อมูลภายใน เป็นต้น
ส่วนเรื่องของวิธีการปฏิบัติหรือกระบวนการขั้นตอนการปฏิบัติใดใดที่จะต้องกำหนดเพิ่มเข้ามา จะต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมา ทั้งเรื่องความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติหรือแม้แต่ต้นทุนในการดำเนินการ ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่ควรเป็นการขัดต่อเป้าหมายและหลักการที่วางไว้ในเบื้องต้น ครอบคลุมทั้งกระบวนการตลาดและการผลิตตลอดทั้งห่วงโซ่อย่างไม่สะดุด ซึ่งหากยังไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ถูกนำไปบังคับใช้ในขั้นตอนปฏิบัติ แล้วก่อให้เกิดอุปสรรคตามมาได้
ทั้งนี้ ทั้งปวงหากคณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เห็นสมควรที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก็สุดแล้วแต่ท่านจะพิจารณา โดยทางสมาคมโรงสีข้าวไทยได้ให้เหตุผลเกี่ยวกับร่างฯ ฉบับนี้ไปอย่างครบถ้วนแล้ว จึงหวังเพียงว่า ท่านสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะได้ดำเนินการพิจารณาด้วยความรอบคอบอย่างถี่ถ้วนจากข้อมูลทุกด้านที่นำเสนอไปทั้งหมด สุดท้ายนี้ ผมนั้นได้พยายามเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นอันสิ้นสุด
เช่นเดียวกับ นายสุเทพ คงมาก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวสั้น ๆ ว่า เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้จะมีปาฎิหารย์เห็นร่างคว่ำในสภา หรือ อาจจะถูกถอดในสภาไม่มีการพิจารณาใดใดเลย
