คันฉ่องส่องเลือกตั้ง : โกงสมัครส.ส. คุก..คุก..คุก

ผู้สมัครส.ส.นับหมื่นส่วนใหญ่ “กกต.” ปล่อยลงสนามลุยหาเสียงเลือกตั้งกันแล้ว แต่มีผู้สมัคร 389 รายในระบบเขตเลือกตั้ง กับอีก 107 รายในแบบบัญชีรายชื่อพรรค เจอ “ใบแดง” ห้ามลงสนาม

กกต.บอกขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการรับสมัคร

เพราะกกต.ไปเจอว่าผู้สมัครส.ส.ของพรรคในเขตเลือกตั้งนั้น ไม่ได้จัดตั้้งสาขาพรรคหรือมีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด หรือมีสถานะการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองซํ้าซ้อนเกิน 1 พรรค หรือสังกัดพรรคที่ส่งลงสมัครไม่ครบ 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง

แทนที่จะได้วิ่งหาเสียงกลับต้องโร่ไปศาลฎีกา ยื่นร้องศาลขอคืนสิทธิการเป็นผู้สมัคร ที่ต้องเอาหลักฐานไปสู้กันกับผลการตรวจสอบของกกต. มีลุ้นว่าจะเสียค่าสมัครหัวละ 10,000 บาทไปฟรีๆ หรือไม่
แต่ในจำนวนที่กกต.ไม่รับรองคุณสมบัตินี้ มี 40 รายที่มีลุ้นโบนัสเพิ่ม เพราะพบว่าเข้าไปแก้ไขข้อมูลย้อนหลังในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค เท่ากับเข้าข่ายแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จที่มีโทษทางอาญา

ประกอบด้วยผู้สมัครส.ส.ระบบเขต 38 ราย โดยพบว่ามีพรรคการเมืองต้นสังกัดของผู้สมัคร ได้เข้าไปแก้ไขระยะเวลาการเข้าเป็นสมาชิกพรรคในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคหลังการปิดรับสมัคร เพื่อให้ผู้สมัคร เป็นผู้มีคุณสมบัติและได้รับการประกาศชื่อ

แยกเป็นพรรคเพื่อแผ่นดิน 8 คน, เศรษฐกิจใหม่ 2 คน, ไทยศรีวิไลย์ 1 คน, ครูไทยเพื่อประชาชน 4 คน, ถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน, ประชาชนปฏิรูป 1 คน, ประชาธรรมไทย 1 คน, พลังท้องถิ่นไท 11 คน, พลังปวงชนไทย 3 คน, ภราดรภาพ 1 คน, รวมพลังประชาชาติไทย 4 คน และรักษ์ผืนป่าประเทศไทยอีก 1 คน

[caption id="attachment_392709" align="aligncenter" width="500"] [/caption]

ผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 2 คน จากพรรครวมพลังประชาชาติไทย และเศรษฐกิจใหม่ แก้ไขข้อมูลย้อนหลังในระบบฐานข้อมูลสมาชิก

พ.ร.ฎ.การเลือกตั้ง กำหนดให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้ง ระยะ 90 วัน คือ ต้องเป็นสมาชิกพรรคที่ส่งสมัครภายในวันที่ 24 ธันวาคม 2562

ปรากฏว่ามีกรณีตัวอย่างการแก้ไขที่ กกต.ตรวจพบ อาทิ ผู้สมัครรายหนึ่งของพรรคพลังปวงชนไทย มีชื่อในระบบฐานข้อมูลพรรคเดิมเป็นสมาชิกพรรควันที่ 22 มกราคม 2562 แต่พบแก้ไขเป็นวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 และพบวันที่แก้ไขข้อมูลในระบบวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 18:47:35

กกต.ตรวจพบอีกว่า อาจมีการ “ฮั้ว” กันของพรรคการเมือง เข้าไปแก้ไขการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเดิม และไปสังกัดพรรคใหม่ เพื่อให้ไม่เป็นสมาชิกซํ้าซ้อน และสังกัดพรรคใหม่ครบตามกำหนด



ข้อมูลที่ตรวจสอบพบ กกต.จะรวบรวมส่งผอ.เลือกตั้งประจำเขต เพื่อใช้ในการชี้แจงต่อศาลฎีกา

ขณะเดียวกันก็กำลังพิจารณาดำเนินคดีผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ฐานแจ้งความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม อันมีโทษจำคุกด้วย

แถมยังมีความผิดในพ.ร.บ.พรรคการ เมือง 2560 มาตรา 22 ที่บัญญัติ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมือง และกรรมการบริหารพรรคการเมือง มีหน้าที่ควบคุม และกำกับดูแลมิให้สมาชิกทำผิดรัฐธรรมนูญ กฎหมายต่างๆ

ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคผู้ใดรู้ว่ามี การฝ่าฝืน ไม่รายงานให้คณะกรรมการบริหารหรือหัวหน้าพรรคทราบ หรือหัวหน้าพรรค หรือผู้บริหารพรรคใดทราบแล้วไม่แจ้งกกต. มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

มีลุ้นกันหนาวละว่า การเข้าถึงระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคได้ จะเป็นฝีมือแค่ของผู้สมัคร หรือเจ้าหน้าที่พรรคเท่านั้น นายทะเบียนสมาชิกไม่รู้ไม่เห็นด้วยจริงหรือ หรือผู้บริหารพรรคคนใดรู้เห็นด้วยหรือไม่

ต้องสืบกันยาว...

| คอลัมน์ : คันฉ่อง ส่องเลือกตั้ง
| โดย : นาย NO VOET
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,447 หน้า 16 ระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.2562