ปตท. รุกหนัก EEC อัดงบกว่า 2.6 แสนล้าน

22 ก.พ. 2562 | 07:05 น.
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่ม ปตท. เตรียมเงินลงทุนสำหรับโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 5 ปี (2562-2566) อยู่ที่กว่า 2.6 แสนล้านบาท อาทิ โครงการก่อสร้าง EECi 4.1 พันล้านบาท เสร็จปี 2563, โครงการท่อก๊าซเส้นที่ 5 มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท เสร็จปี 2564, คลังรองรับก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) มูลค่า 3.1 หมื่นล้าน เสร็จปี 2565, โครงการโอเลฟินส์และโครงการ Polyols & PU ของ PTTGC มูลค่ารวม 3 หมื่นล้านบาท, โครงการ CFP ของไทยออยล์ 1.28 แสนล้านบาท, โครงการท่าเรือของไทยออยล์ 2.3 พันล้านบาท, โครงการ Ultra Clean Fuel Project (UCF) 7.8 พันล้านบาท ของ IRPC และโครงการเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนของ IRPC 4.1 หมื่นล้านบาท

 

[caption id="attachment_393040" align="aligncenter" width="503"] ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ชาญศิลป์ ตรีนุชกร[/caption]

ปตท. มีความสนใจร่วมประมูลโครงการใน EEC ซึ่งโครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ยื่นไปแล้ว ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการร่วมค้า 'กัลฟ์' และ "พีทีที แทงค์" เป็นความร่วมมือระหว่าง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) และบริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ปตท. ถือหุ้นในสัดส่วน 70% และ 30% ตามลำดับ สาเหตุที่ ปตท. ถือน้อยกว่า เนื่องจากปัจจุบัน ปตท. มีคลังแอลเอ็นจี 11.5 ล้านตัน และเพิ่มเป็น 19 ล้านตัน ในปี 2565-2566 เมื่อคำนวณเป็นก๊าซจะอยู่ที่ 2.6-2.7 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของความต้องการใช้ก๊าซทั้งหมด และตามแผน PDP2018 ยังไม่แน่ใจว่า ความต้องการใช้ก๊าซจะเติบโตตามแผนหรือไม่ ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าไอพีพีของกัลฟ์ 5 พันเมกะวัตต์ มีความต้องการใช้แอลเอ็นจี นอกจากนี้ ในสัญญาเป็นรูปแบบ PPP รัฐวิสาหกิจไม่ต้องการถือหุ้นใหญ่


83759

นอกจากนี้ โครงการท่าเรือแหลมฉบังและโครงการสนามบินอู่ตะเภา วานนี้ (21 ก.พ.) คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ปตท. ให้กับไปพิจารณาความเสี่ยงการร่วมประมูล การร่วมกับพันธมิตรที่ยังไม่ลงตัว ยังมีระยะเวลาในการตัดสินใจ


111

"ในช่วง 5 ปี เชื่อว่า โรงการใน EEC จะเพิ่มขึ้น ซึ่งการลงทุนของกลุ่ม ปตท. มีหลายโครงการมูลค่ากว่า 2.6 แสนล้านบาท โดยสิ่งที่จะตามมา คือ เกิดการจ้างงานในอนาคต และผลิตภัณฑ์ใหม่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ บอร์ดยังให้เร่งลงทุนโครงการ UCF ของ IRPC เพื่อเร่งผลิตมาตรฐานยูโร 5 รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าแนฟทาเพื่อทำพาราไซลีน ส่วนการลงทุนในโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ต้องรอดูว่า ใครเป็นผู้ชนะการประมูล จากนั้นจะศึกษาว่าจะลงหรือไม่ อย่างไร" นายชาญศิลป์ กล่าว

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว