ไม่ประกาศชื่อ "ผู้สมัครโคราชพรรคประชาชาติ" เหตุสมาชิกซ้ำซ้อน

22 ก.พ. 2562 | 07:10 น.
ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งประเดิมคดีแรก พิพากษายืนตาม กกต. ตัดสิทธิไม่ประกาศชื่อ "จีรเดช ทองย้อย" เป็นผู้สมัครโคราช เขต 12 พรรคประชาชาติ เหตุเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกัน 2 พรรค

ศาลฎีกา
วันนี้ (22 ก.พ. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้มีคำพิพากษายกคำร้องในคดีที่ นายจีรเดช ทองย้อย ผู้สมัคร ส.ส. เขต 12 นครราชสีมา พรรคประชาชาติยื่นฟ้องผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 12 จ.นครราชสีมา กรณีไม่ประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร โดยศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง คำคัดค้าน และเอกสารประกอบ นายจีรเดชเป็นสมาชิกพรรคประชาชาติ เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2561 ตามหนังสือรับรองของหัวหน้าพรรคประชาชาติที่ ปช. 2562/0164 แต่ก่อนหน้านั้น นายจีรเดช ยอมรับว่า เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน แม้จะอ้างว่า ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2561 ตามหนังสือขอลาออกฉบับลงวันที่ 6 ธ.ค. 2561 แต่ตามเอกสารผลการตรวจสอบสมาชิกพรรคการเมืองของผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่บันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลพรรคการเมือง ข้อมูล ณ วันที่ 14 ก.พ. 2562 แนบท้ายคำร้องของนายจีรเดช ซึ่งพรรคเป็นผู้นำข้อมูลดังกล่าวเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลพรรคการเมืองเอง ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ข้อ 25 ประกอบข้อ 24 (6) ปรากฎว่า นายจีรเดชสิ้นสภาพการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดินเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2561 แสดงว่า ในระหว่างวันที่ 26 พ.ย. 2561 จนถึงวันที่ 6 ธ.ค. 2561 นายจีรเดชเป็นสมาชิกพรรคเมือง 2 พรรค ซ้ำซ้อนกัน


ECT-0

อีกทั้งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 24 กำหนดว่า สมาชิกต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กำหนดในข้อบังคับและมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 9 (1) (3) และ (5) และมาตรา 9 บัญญัติว่า บุคคลซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองในแนวทางเดียวกันและมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ จำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน อาจร่วมกันดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ได้ (5) ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่น บทบัญญัติมาตรา 24 ประกอบมาตรา 9(5) ดังกล่าวแสดงว่า การเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นในเวลาเดียวกัน เป็นลักษณะต้องห้ามของการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และเมื่อกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 26 บัญญัติว่า ในกรณีที่ปรากฎต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ว่า บุคคลใดเป็นสมาชิกหลายพรรคการเมืองให้มีหนังสือแจ้งให้หัวหน้าพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องทราบ และลบชื่อผู้นั้นออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น การที่บทบัญญัติดังกล่าวให้นายทะเบียนมีหนังสือแจ้งให้หัวหน้าพรรคเมืองที่เกี่ยวข้องทราบและลบชื่อผู้นั้นออกจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองนั้น ไม่ได้บัญญัติให้หนังสือแจ้งเฉพาะหัวหน้าพรรคการเมืองแรกหรือหัวหน้าพรรคการเมืองหลัง และไม่ได้ระบุให้ลบชื่อผู้นั้นออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเฉพาะพรรคการเมืองแรกหรือพรรคการเมืองหลังเท่านั้น แสดงให้เห็นว่า พ.ร.ป.พรรคการเมือง 60 มีเจตนารมณ์ที่จะให้ผู้นั้นพ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองที่ซ้ำซ้อนกันทุกพรรค

ดังนั้น เมื่อข้อเท็จจริงปรากฎว่า ในระหว่างวันที่ 26 พ.ย. 2561 จนถึงวันที่ 6 ธ.ค. 2561 นายจีรเดชเป็นสมาชิกพรรคประชาชาติและพรรคเพื่อแผ่นดิน นายจีรเดชจึงไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เพียงพรรคการเมืองเดียวเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตีรา 97(3) และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 41(3) ดังนั้น ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขต ฯ ไม่ประกาศรายชื่อนายจีรเดชเป็นผู้สมัคร ส.ส. เขต 12 นครราชสีมา จึงขอบแล้ว

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว