'อภิสิทธิ์' ยัน "ปชป." ทำ "นโยบายข้าว" จากประสบการณ์ ย้ำ! ประกันรายได้ การคลังไม่เสียหาย
'อภิสิทธิ์' ชี้! ประชาธิปัตย์ทำนโยบายข้าวจากประสบการณ์ ต่างจากภูมิใจไทย ชี้! ประกันรายได้พิสูจน์แล้ว ระบบการเงินการคลังไม่เสียหาย ยัน! เรื่องข้าวต่างจากภูมิใจไทย ไม่เสียหาย เผย กระแสตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตทุ่งครุ ว่า กระแสการตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ ประชาชนมีความตั้งใจอยากให้ประเทศเดินหน้า โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง อยากให้แก้ไขให้ตรงจุด ขณะเดียวกันก็อยากมีความมั่นใจ ว่า การเมืองจะต้องเดินหน้าไปอย่างสุจริต เพราะฉะนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามนำเสนอ คือ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต ด้วยนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนทุกพื้นที่เป็นอย่างดี
ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยปราศรัยว่า มีนโยบายเรื่องข้าวดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลไกการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมีความแตกต่างกันเรื่องข้าว พรรคประชาธิปัตย์ทำนโยบายข้าวจากประสบการณ์ โดยใช้นโยบายประกันรายได้ที่ถือว่าประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะปรับปรุงยกระดับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เป็นนโยบายที่พิสูจน์แล้ว ว่า ดำเนินการไปแล้วระบบการเงินการคลังไม่เสียหาย
"ที่สำคัญไม่มีทุจริต กลไกการขายข้าวไม่พัง ข้าวไทยยังสามารถแข่งขันและส่งออกได้เป็นอย่างดี ส่วนกรณีของพรรคภูมิใจไทย เข้าใจว่า จะเอาแนวคิดเรื่องระบบอ้อย-น้ำตาลมาใช้กับข้าว ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ความจริงแล้วตลาดอ้อย-น้ำตาลกับตลาดข้าวมีความแตกต่างกัน เพราะสามารถตรึงราคาน้ำตาลในราคาสูง ถ้าเอาระบบอ้อย-น้ำตาลมาใช้กับข้าว ก็แปลว่า ให้คนไทยกินข้าวแพงใช่หรือไม่ ประการที่ 2 การป้อนอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาล มีโรงงานน้อย มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ ขณะที่ การค้าขายข้าวมีหลายประเภท โรงสีมีจำนวนมาก ตรงนี้เป็นปัญหาที่จะทำได้ยาก เรื่องนี้สามารถฟังจากนักวิชาการ ว่า สามารถเป็นไปได้จริงหรือไม่ ที่จะนำระบบอ้อยน้ำตาลมาใช้กับพืชเช่นข้าว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ พร้อม นายถวิล ไพรสณฑ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พร้อมคณะ เดินทักทายพี่น้องประชาชนในสวนธนบุรีรมย์ รณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มี.ค. 2562 พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เบอร์ 12 เขตเลือกตั้งที่ 24 ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ ย้ำเดินหน้านโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ จากนั้นขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังตลาดใหม่ทุ่งครุประชาอุทิศ 61 เพื่อพบปะทักทายแม่ค้าพ่อค้าประชาชนในตลาดฯ ระหว่างนั้น นายอภิสิทธิ์ได้ใส่บาตรและพระได้ให้พรว่า ขอให้ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่พบปะประชาชนในเขตทุ่งครุ ว่า กระแสการตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ ประชาชนมีความตั้งใจอยากให้ประเทศเดินหน้า โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง อยากให้แก้ไขให้ตรงจุด ขณะเดียวกันก็อยากมีความมั่นใจ ว่า การเมืองจะต้องเดินหน้าไปอย่างสุจริต เพราะฉะนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามนำเสนอ คือ ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต ด้วยนโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนทุกพื้นที่เป็นอย่างดี
ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยปราศรัยว่า มีนโยบายเรื่องข้าวดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กลไกการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยมีความแตกต่างกันเรื่องข้าว พรรคประชาธิปัตย์ทำนโยบายข้าวจากประสบการณ์ โดยใช้นโยบายประกันรายได้ที่ถือว่าประสบผลสำเร็จระดับหนึ่ง และการเลือกตั้งครั้งนี้จะปรับปรุงยกระดับขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เป็นนโยบายที่พิสูจน์แล้ว ว่า ดำเนินการไปแล้วระบบการเงินการคลังไม่เสียหาย
"ที่สำคัญไม่มีทุจริต กลไกการขายข้าวไม่พัง ข้าวไทยยังสามารถแข่งขันและส่งออกได้เป็นอย่างดี ส่วนกรณีของพรรคภูมิใจไทย เข้าใจว่า จะเอาแนวคิดเรื่องระบบอ้อย-น้ำตาลมาใช้กับข้าว ซึ่งถือเป็นความตั้งใจที่ดี แต่ความจริงแล้วตลาดอ้อย-น้ำตาลกับตลาดข้าวมีความแตกต่างกัน เพราะสามารถตรึงราคาน้ำตาลในราคาสูง ถ้าเอาระบบอ้อย-น้ำตาลมาใช้กับข้าว ก็แปลว่า ให้คนไทยกินข้าวแพงใช่หรือไม่ ประการที่ 2 การป้อนอ้อยเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำตาล มีโรงงานน้อย มีระบบที่สามารถตรวจสอบได้ ขณะที่ การค้าขายข้าวมีหลายประเภท โรงสีมีจำนวนมาก ตรงนี้เป็นปัญหาที่จะทำได้ยาก เรื่องนี้สามารถฟังจากนักวิชาการ ว่า สามารถเป็นไปได้จริงหรือไม่ ที่จะนำระบบอ้อยน้ำตาลมาใช้กับพืชเช่นข้าว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิสิทธิ์ พร้อม นายถวิล ไพรสณฑ์ ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พร้อมคณะ เดินทักทายพี่น้องประชาชนในสวนธนบุรีรมย์ รณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ในวันที่ 24 มี.ค. 2562 พร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ และนายสาทร ม่วงศิริ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เบอร์ 12 เขตเลือกตั้งที่ 24 ราษฎร์บูรณะ-ทุ่งครุ ย้ำเดินหน้านโยบายแก้จน สร้างคน สร้างชาติ จากนั้นขึ้นรถแห่หาเสียงไปยังตลาดใหม่ทุ่งครุประชาอุทิศ 61 เพื่อพบปะทักทายแม่ค้าพ่อค้าประชาชนในตลาดฯ ระหว่างนั้น นายอภิสิทธิ์ได้ใส่บาตรและพระได้ให้พรว่า ขอให้ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
