Food  Flower  Fresh ร้านเล็กในป่าใหญ่

 



หลีกหนีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตกับธรรมชาติ อยู่กับตัวเอง  อยู่กับเวลา ที่นี่ ... The Ironwood

“ปักหมุด” ชวนนักชิมมาสัมผัสกับร้านอาหารฟีลกู๊ด The Ironwood  ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติในสวนสวยเสมือนเทพนิยาย กับธรรมชาติที่บรรจงสร้าง รังสรรค์สรรพสิ่งรอบด้านให้งดงาม เสริมการตกแต่งอย่างมีดีไซน์ ที่เข้ากันได้อย่างลงตัว

ร้าน The Ironwood ตั้งอยู่ม่อนแจ่ม แม่ริม จ.เชียงใหม่  การเดินทางมาค่อนข้างลำบาก หากไม่มีรถส่วนตัว และแม้มีรถส่วนตัวก็อธิบายยาก  แนะนำให้กด Google Maps  ใส่ชื่อแล้ว รับรองสะดวกและไม่เสียอารมณ์

ความโดดเด่นและบรรยากาศ ผนวกอาหารอร่อยของ The Ironwood  ทำให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก แต่ละวันจึงมีลูกค้าแวะเวียนกันเข้ามาไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ จะต้องจองล่วงหน้ากันนานนับเดือน

หาก “ปักหมุด” และ “ล้อหมุน”  มีเป้าหมายมายัง The Ironwood แล้ว ตลอดเส้นทางสัญจรที่มุ่งตรงมายังม่อนแจ่มสองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย  แทรกร้านค้า ร้านกาแฟ เป็นระยะๆ แม้ The Ironwood จะเปิดตลอด
ทั้งปี แต่หากอยากได้โอโซน บวกลมเอื่อยๆ ความชื้นสัมพัทธ์เล็กๆ แนะนำให้ไปช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคมของทุกปี เพราะอากาศจะดีมาก แม้ผู้คนจะพลุกพล่านไปสักหน่อย



จะว่าไปแล้วใครที่เคยได้ยินชื่อ The Ironwood  ตามคำบอกเล่าจากผู้อื่น แต่หากได้มาสัมผัสด้วยตนเอง จะบอกเลยว่า “เริ่ด” กว่าเสียงเล่าขาน เพราะทันทีที่ก้าวลงจากรถ เสมือนข้ามมาอยู่อีกโลกที่แตกต่างจากวิถีชีวิตในเมืองโดยสิ้นเชิง

The Ironwood เป็นร้านอาหารแบบเอาต์ดอร์ ด้านหน้าเป็นตึกเก่าที่ตกแต่งสไตล์ยุโรป จะเห็นเฟอร์นิเจอร์เก่าเก็บจากฝรั่งเศสและไทยร่วมสมัย ตลอดจนถ้วย จาน ชามเก่า ชุดเครื่องแก้ว ที่เจ้าของอาคารสะสมไว้ ก็ถูกตั้งโชว์ให้ลูกค้า หรือผู้ชื่นชอบได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก อีกจุดเด่นคือ “เรือนกระจก” ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด จะเรียกว่าที่นี่เป็น “โกดัง” หรือห้องอนุบาลต้นไม้ก็ได้ เพราะเห็นห้องเล็กๆแค่นี้ แต่ด้านในอัดแน่นด้วยต้นไม้มากมาย

แน่นอนว่า “พระเอก” ของร้าน Ironwood  คือเมนูอาหารที่หากได้ลิ้มรสแล้วจะติดใจ กับเมนูอาหารไทยโบราณ แต่ถูกปรับให้เป็น ฟิวชัน อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด นอกจากการสรรหาวัตถุดิบที่สด ใหม่ สะอาดแล้ว ในแต่ละฤดูกาลจะรับซื้อวัตถุดิบจากชุมชนชาวบ้านในท้องถิ่น มาใช้ประกอบอาหาร และเป็นที่มาของเมนู “ดอกไม้” หลายๆ เมนูที่ทำหลายคนแปลกใจว่า “ดอกไม้” นี้รับประทานได้และอร่อยด้วย

อาหารที่ทยอยนำเสิร์ฟบนโต๊ะ เต็มไปด้วยสีสัน และน่าประหลาดใจ เพราะหลายเมนูหาชิมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็น “ปลาแห้งแตงโม” เมนูเรียกนํ้าย่อย ที่นักชิมอายุ 40 อัพต้องทาน (เพื่อรำลึกวัยเยาว์) ส่วนคนรุ่นใหม่ก็อยากลอง เพราะแปลกตาไม่เคยเห็น





เมนูซิกเนเจอร์ ที่ติดดาวของร้าน มีทั้ง “ข้าวคลุกกะปิดอกไม้” “ยำผักกูด”   “เต้าหู้พริกเกลือ” “อกเป็ดซอสพะแนง” “ต้มกะทิหมูแดดเดียว” และ “ปลากะพงผัดกะปิ” ซึ่งเมนูสุดท้ายนี้ หลายคนให้คะแนนเต็ม 10 เพราะลงตัวทั้งความสด  และรสชาติอร่อยที่ไม่เค็มเกินไป

ยังมีเมนูอีกมากมายให้ลิ้มชิมรส  และหากแน่นเกินไป จะมูฟไปถ่ายรูปเล่น สัก 4-5 ช็อต ก่อนกลับมานั่งชิล ชิล จิบกาแฟพร้อมเมนูขนมหวานอีกสักรอบก็ยังไหว .. สมแล้วกับที่เป็นร้านฟีลกู๊ด  เพราะชิม ชิล เผลอแป๊บเดียวปาเข้าไปกว่า 2 ชม.

งานนี้แนะนำ “นักชิม” “นักเที่ยว” แวะไปแล้วรับรองไม่ผิดหวัง “ปักหมุด” ให้คะแนน 8.5 เลยจ้า...

หน้า 24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่39 ฉบับที่ 3,445 วันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562