ฐานโซไซตี : “การบินไทย” เห็นสัจธรรม ถม “นกแอร์” เท่าไรไม่รู้จักเต็ม

20 ก.พ. 2562 | 10:57 น.
ถมม-01 ทำความรู้จักสายการบินนกแอร์_01 ตามคาด “บินไทย” ตัดสินใจไม่เติมเงินอีก 545 ล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุนสายการบินนกแอร์ แม้จะทำให้ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นเหลือ 15.94% จากเดิม 21.80% นั่นแสดงว่า คงเห็นสัจธรรมชัดเจนแล้วว่าถมเท่าไรไม่รู้จักเต็ม จึงไม่อยากตำนํ้าพริกละลายแม่นํ้า หลังก่อนหน้านั้น “สุเมธ ดำรงชัยธรรม” จะออก มาอํ้าอึ้งทุกครั้งที่ถูกถามถึงเรื่องนี้

การสละสิทธิ์ครั้งนี้เป็นไปตามมติบอร์ด ของประธาน “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” ที่มีความเห็นว่า “แผนธุรกิจไม่ชัด” แสดงว่าบอร์ดบินไทยคงเห็น ความเสี่ยง! หากจะใส่เงินลงไปอีกครึ่งพันล้านบาท และไหนยังจะต้องแบกรับภาระขาดทุนสะสมบักโกรกอีกหลายพันล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการการบินไทยก็ยังไม่ฟื้นแถมยังมีภาระขาดทุนสายการบินลูกไทยสมายล์อีก 6 พันล้านบาท ที่ต้องประคบประหงมกันไป เพื่ออยู่ให้รอด

ส่วนจะขายทิ้งหุ้นในนกแอร์ไหม? คงไม่ขาย เพราะหากขายออกไปก็เท่ากับการบินไทย ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติไม่มี “เน็ตเวิร์ก” ที่สนามบินดอนเมืองอยู่เลย ซึ่งในทางยุทธศาสตร์น่าเป็นห่วง กรณีผู้โดยสาร “คอนเนกติ้งไฟลต์” ที่ต้องต่อเครื่องบินไปที่อื่นจะเป็นปัญหาในเชิงการแข่งขัน และการสร้างเน็ตเวิร์กกิ้ง ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ของสายการบินหลัก

อย่างไรเสีย “ดอนเมือง” ก็ยังมีความสำคัญอยู่ในแง่ยุทธศาสตร์การบิน แต่มองในเชิงแผนธุรกิจนกแอร์ บอกตามตรงว่า “เหนื่อย” อีกนาน แต่ตระกูล “จุฬางกูร” ก็ยังกัดฟันสู้ต่อ ใส่เงินจนทำให้แผนเพิ่มทุนครั้งที่ 3 ได้เงินมาถึง 2.3 พันล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 2.5 พันล้านบาท เหลือหุ้นที่ขายไม่ออกอีก 72 ล้านหุ้น ซึ่งต้องดูกันต่อว่าเงินก้อนนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหน ภายใต้การนำของ “ประเสริฐ บุญสัมพันธ์” ที่คงไม่มาเสียฟอร์มเอาตอนนี้

อัพเดต โครงการแตกไลน์ของยักษ์ใหญ่นํ้ามัน “ปตท.” ที่ริจะหันมาบุกธุรกิจท่องเที่ยว ผุดโครงการสวยหรู โรงแรมราคาประหยัด หรือบัดเจ็ต โฮเต็ลตามปั๊มนํ้ามันทั่วประเทศ เปิดตัวแรงมากเพราะเป็นการเชิญชวนเอกชนกูรูในวงการเข้าร่วมทุนผ่านมาร่วม 2 ปีเศษ กลับไม่คืบ ทั้งที่เรียกบิ๊กทุนเข้าหารือหลายรอบและถึงขั้นคัดเลือกไว้แล้ว 3-4 รายที่ถนัดโรงแรมโลว์คอสต์ ไม่ว่าจะเป็น ค่าย ซุปเปอร์ เอท - เอราวัณ- ซีพี และ B2 แต่สุดท้ายก็เงียบสนิท ปล่อยให้หายไปตามสายลม เพราะประเมินแล้วฝ่ายบริหารยุค ซีอีโอ“ชาญศิลป์ ตรีนุชกร” คงเก็บเข้าลิ้นชักไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเรื่องนี้ดูแล้ว ไม่หมูในเชิงธุรกิจที่จะทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ แถมยังไม่ใช่ธุรกิจที่ ปตท.มีความชำนาญแม้จะหาเอกชนมาร่วมทุนก็ตาม ดูแล้วไม่คุ้มค่าก็ไม่ฝืนจบข่าว!

เรื่องใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยังไม่รู้จะโกลาหลหรือราบรื่นคือ “ปิดซ่อมรันเวย์” สนามบินสุวรรณภูมิ ฝั่งตะวันออกและแท็กซี่เวย์ ซึ่งทอท.เรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกัน “ตั้งการ์ดรับมือ” เพราะแน่นอนต้องมีไฟลต์ “ดีเลย์” ตามแผน ทอท. จะแบ่งการปิดซ่อมเป็น 2 ช่วงคือช่วงแรก วันที่ 1 มีนาคม- 15 พฤษภาคม 2562 ช่วง 2 วันที่ 8 พฤศจิกายนยาวไปถึง 6 เมษายน 2563  เริ่มซ่อมกันตั้งแต่เวลา 01.30 - 08.30 น. เพื่อเลี่ยงผลกระทบ ใช้งบประมาณ 180 ล้านบาท

[caption id="attachment_390894" align="aligncenter" width="500"] ฐานโซไซตี  : “การบินไทย” เห็นสัจธรรม ถม “นกแอร์” เท่าไรไม่รู้จักเต็ม เพิ่มเพื่อน [/caption]

ผลที่ตามมาก็คือทำให้รองรับเที่ยวบินได้ลดลง 50% เหลือ 34 เที่ยวต่อชั่วโมง แต่ยังดีที่ช่วงผู้โดยสารพีกๆ อย่างสงกรานต์ “งดปิดซ่อม” ตั้งแต่วันที่ 8-19 เมษายน เรื่องนี้ วิทยุการบินประเมินว่าเที่ยวบินที่จะกระทบมากคือ ช่วงขาเข้าจากยุโรป ช่วงตี 05.30-08.30 น. และช่วงเวลา 07.30 - 08.30 น. ที่จะมีเที่ยวบินขาออกจากสุวรรณภูมิไปภูมิภาคเอเชีย หนาแน่นมาก แต่ก็ยอมรับว่าน่าจะดีเลย์วันละ 20 เที่ยวและราว 10-20 นาที ยาวสุดก็ 20 นาที

เพื่อความไม่ประมาท “ทอท.” ก็เตรียมมาตรการรองรับ เตรียมที่นั่ง 2,700 ที่นั่งรับผู้โดยสารตกค้าง หรือหากดีเลย์นานเกิน 1 ชม.แจกอาหาร เครื่องดื่มฟรี ดูไม่ใช่ประเด็นนัก เพราะหากไม่มีคงถูกผู้โดยสาร “สับเละ” ปัญหาใหญ่คือทุกวันนี้สนามบินจะแตกอยู่แล้วหลุมจอดก็ไม่พอ บางไฟลต์ไปจอดเกือบจะถึงศูนย์ซ่อมบินไทยอยู่แล้วคิวเช็กอินช่วง 7-8 โมงเช้ายาวเป็นหางว่าว ที่จะเดินแทบไม่มี ถึงวันปิดซ่อมรันเวย์จริง จะเชื่อได้แค่ไหนว่า “ดีเลย์” แค่ 10-20 นาทีจริง แต่แผนดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดในเมื่อ ทอท.ขยับตัวลงทุนทีไรกลายเป็นประเด็นร้อนไปเสียหมด ก็น่าเห็นใจคนทำงาน ซึ่งต้องเอาข้อมูลและเหตุผลมาหักล้างกัน สังคมถึงจะหายคลางแคลงใจ

จับตาอย่ากะพริบ กับการประชุมบอร์ดทอท. ที่จะชงเรื่อง “สัมปทานดิวตี้ฟรี” เข้าพิจารณาในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ว่าบอร์ดชุดนี้จะทำคลอดสำเร็จออกมาให้ ชาวบ้านได้ “ไชโยโห่ฮิ้ว” ทุบโต๊ะเปิดสัมปทานหลายรายเลิกผูกขาด ปลดล็อก จุดรับสินค้าเปิดทางให้ดิวตี้ฟรีในเมืองได้เกิดบ้าง และควรจะเปิดให้ร้านสะดวกซื้อเข้าไปขายหน้า gate ได้บ้าง ดูอย่าง สนามบินโอซากา หน้าประตูก่อนขึ้นเครื่องการบินไทย มีแฟมิลี่มาร์ท ตั้งอยู่มีสินค้าในร้านราคาไม่ถึง 100 เยนอย่างโมจิยังมีขาย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ระบายเหรียญนาทีสุดท้าย คนต่อคิวซื้อกันยาว สินค้าในเชลฟ์ว่างโล่ง เพราะขายดี เมืองไทยทำไม่ได้หรือไม่คิดจะทำ

ยิ้มหน้าบานสำหรับ “เมธ์วดี ประเสริฐสินธนา” เอ็มดีสาวคนเก่งของ บลจ.บางกอก แคปปิตอลฯ หลังกองทุน “BCAP Mid Small CG ETF” โชว์ผลงานผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนหุ้นสมอลล์แคปหรือกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็กที่ 10.59% สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนหุ้นกลางและเล็กผลตอบแทนเด่น ซื้อง่ายๆผ่านทาง SET Streaming App ได้แล้ววันนี้

|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
|โดย : พริกกะเหรี่ยง
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3446 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 21-23 ก.พ.2562
595959859