'อนุทิน' ชูใช้กฎหมายเอื้อลงทุน ฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้
| 'อนุทิน' ชูใช้กฎหมายเอื้อลงทุน ฟื้นเศรษฐกิจภาคใต้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, ทีมยุทธศาสตร์พรรค และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ลงพื้นที่ตลาดกิมหยง ท่ามกลางความสนใจของประชาประชนในตลาด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านขอถ่ายรูปกับหัวหน้าพรรคและทีมผู้สมัครตลอดทาง
นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ตนพอใจกับกระแสตอบรับของประชาชนที่มีต่อพรรคภูมิใจไทย สำหรับปัญหาที่พบเจอ นอกจากราคายางและราคาปาล์มที่ตกต่ำ คนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา เราเสนอแนวทางแก้ไขด้วยแบ่งปันผลกำไร และการนำปาล์มน้ำมันมาผลิตไฟฟ้า
พบว่า ปัญหาที่พบทั่วไป คือ ภาคใต้มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในทุกจังหวัด แต่รัฐกลับโปรโมตแค่บางจังหวัด ถือว่าใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า ปิดโอกาสที่ประชาชนสมควรมีรายได้จากการท่องเที่ยว และสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ ระบบรักษาความปลอดภัยของแต่ละเมือง ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้
นอกจากนั้น อยากเสนอให้ภาครัฐนำกฎหมายส่งเสริมการลงทุนมาใช้จริงจังกับทุกพื้นที่ภาคใต้และทุกจังหวัด นอกจากนั้น ต้องพัฒนาสาธารณูปโภคกับทุกจังหวัดด้วย เพื่อสร้างความเจริญและความน่าลงทุนอย่างเท่าเทียม
ปัจจุบันจะมีเพียงบางจังหวัดที่รัฐส่งเสริม ขณะที่ หลายจังหวัดถูกละเลย ตนมองว่า ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่มีการลงทุน ความคึกคักจะเกิดขึ้น และปัญหาความไม่สงบจะคลี่คลายไปเองตามธรรมชาติ
นายอนุทิน กล่าวถึงเรื่องการเมืองที่มีการยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติกับพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ใครผิดใครถูกว่ากันตามกฎหมาย ส่วนตัวสนใจแต่เรื่องของพรรคภูมิใจไทย เราต้องขยันทำงาน จึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของพรรคการเมืองอื่น
สำหรับผู้สมัครสงขลาประกอบไปด้วย เขต 1 นายราเดช คำทัปน์, เขต 2 นายเจษฎาพงษ์ ชูแก้ว, เขต 3 นายสุคนธ์ เรืองกูล, เขต 4 นายณัฐวุฒิ แสงศรีคำ, เขต 5 นายจิรายุทธ์ ร่วมสุข, เขต 6 นางอุไร โชติรุ่งโรจน์, เขต 7 นายณัฎฐ์ ชนน ศรีก่อเกื้อ, เขต 8 นายฮาหรน มันหลอ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรค, ทีมยุทธศาสตร์พรรค และทีมผู้สมัคร จ.สงขลา ลงพื้นที่ตลาดกิมหยง ท่ามกลางความสนใจของประชาประชนในตลาด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านขอถ่ายรูปกับหัวหน้าพรรคและทีมผู้สมัครตลอดทาง
นายอนุทิน กล่าวว่า การลงพื้นที่ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ตนพอใจกับกระแสตอบรับของประชาชนที่มีต่อพรรคภูมิใจไทย สำหรับปัญหาที่พบเจอ นอกจากราคายางและราคาปาล์มที่ตกต่ำ คนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า ส่งผลให้เศรษฐกิจซบเซา เราเสนอแนวทางแก้ไขด้วยแบ่งปันผลกำไร และการนำปาล์มน้ำมันมาผลิตไฟฟ้า
พบว่า ปัญหาที่พบทั่วไป คือ ภาคใต้มีแหล่งท่องเที่ยวอยู่ในทุกจังหวัด แต่รัฐกลับโปรโมตแค่บางจังหวัด ถือว่าใช้ทรัพยากรไม่คุ้มค่า ปิดโอกาสที่ประชาชนสมควรมีรายได้จากการท่องเที่ยว และสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ ระบบรักษาความปลอดภัยของแต่ละเมือง ต้องสร้างความมั่นใจกับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้
นอกจากนั้น อยากเสนอให้ภาครัฐนำกฎหมายส่งเสริมการลงทุนมาใช้จริงจังกับทุกพื้นที่ภาคใต้และทุกจังหวัด นอกจากนั้น ต้องพัฒนาสาธารณูปโภคกับทุกจังหวัดด้วย เพื่อสร้างความเจริญและความน่าลงทุนอย่างเท่าเทียม
ปัจจุบันจะมีเพียงบางจังหวัดที่รัฐส่งเสริม ขณะที่ หลายจังหวัดถูกละเลย ตนมองว่า ไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ หากทุกพื้นที่มีการลงทุน ความคึกคักจะเกิดขึ้น และปัญหาความไม่สงบจะคลี่คลายไปเองตามธรรมชาติ
นายอนุทิน กล่าวถึงเรื่องการเมืองที่มีการยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติกับพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องของกฎหมาย ใครผิดใครถูกว่ากันตามกฎหมาย ส่วนตัวสนใจแต่เรื่องของพรรคภูมิใจไทย เราต้องขยันทำงาน จึงไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของพรรคการเมืองอื่น
สำหรับผู้สมัครสงขลาประกอบไปด้วย เขต 1 นายราเดช คำทัปน์, เขต 2 นายเจษฎาพงษ์ ชูแก้ว, เขต 3 นายสุคนธ์ เรืองกูล, เขต 4 นายณัฐวุฒิ แสงศรีคำ, เขต 5 นายจิรายุทธ์ ร่วมสุข, เขต 6 นางอุไร โชติรุ่งโรจน์, เขต 7 นายณัฎฐ์ ชนน ศรีก่อเกื้อ, เขต 8 นายฮาหรน มันหลอ
