ครม. แก้ไข พ.ร.บ.สภาอุตฯ ให้สอดรับนโยบายภาครัฐ

18 ก.พ. 2562 | 08:48 น.
ครม. แก้ไข พ.ร.บ.สภาอุตฯ เพิ่มเติมบทนิยามให้สอดรับนโยบายภาครัฐ ให้มี "กก.บห." เป็นทีมสนับสนุน ปธ.ส.อ.ท.

พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้พิจารณาในประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไปประกอบการพิจารณาด้วย หลังจากนั้นส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป

พร้อมกันนี้ ยังรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

สำหรับร่าง พ.ร.บ.สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สาระสำคัญ คือ แก้ไขเพิ่มเติมบทนิยาม "อุตสาหกรรม" ให้สอดคล้องกับการประกอบอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ให้ครอบคลุมถึงกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการประกอบอุตสาหกรรม เช่น การวิจัย พัฒนา และบริการเกี่ยวกับอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น อุตสาหกรรม ซอฟแวร์ เพื่อให้การดำเนินการของ ส.อ.ท. ครอบคลุมกิจการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร และให้บริการสมาชิกได้ทั้งหมด

ทั้งยังได้แก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของ ส.อ.ท. ให้สามารถสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายด้านอุตสาหกรรมของภาครัฐ ในการช่วยพัฒนาผู้ประกอบการทุกระดับและแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ วิธีการได้มา และจำนวนของคณะกรรมการ ส.อ.ท. โดยกำหนดจำนวนของคณะกรรมการฯ จากเดิม 357 คน ลดลงเหลือไม่เกิน 251 คน เพื่อลดปัญหาเรื่องการจัดการประชุม องค์ประชุม การจัดการเลือกตั้ง และค่าใช้จ่าย

ทั้งยังเพิ่มเติมให้มีคณะกรรมการบริหารเป็นทีมสนับสนุนประธาน ส.อ.ท. ในการบริหารองค์กร เพื่อให้ความช่วยเหลือสมาชิกได้อย่างทั่วถึง โดยประธาน ส.อ.ท. จะเป็นผู้ดำเนินการการจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร, เพิ่มเติมคุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกสามัญของ ส.อ.ท. ต้องเป็นนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงาน หรือ ประกอบอุตสาหกรรมประเภทอื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ เพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบอุตสาหกรรมในปัจจุบันที่มีการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น และเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ เข้ามาเป็นสมาชิก, เพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ส.อ.ท. ให้สามารถมอบอำนาจ หรือ มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินงานของ ส.อ.ท. ได้ ยกเว้น อำนาจหน้าที่ในการวางนโยบายขององค์กร, ทั้งยังเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้รักษาการ ให้มีอำนาจออกประกาศให้สมาชิกแจ้งข้อมูลของสมาชิก เพื่อใช้ในการควบคุมวิเคราะห์ ประเมิน และประกอบการจัดทำนโยบายและแผนการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้ภาครัฐมีข้อมูลในการประกอบการจัดทำนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างครบถ้วน

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว