ราคาน้ำมันดิบเพิ่มต่อ หลังหลายฝ่ายกังวลอุปทานตึงตัวจากซาอุดิอาระเบีย

18 ก.พ. 2562 | 03:20 น.
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มต่อ หลังหลายฝ่ายกังวลอุปทานตึงตัวจากซาอุดิอาระเบีย

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 18 กุมภาพันธ์ 2562

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ หลังซาอุดิอาระเบียปิด Safaniyah แท่นขุดเจาะกลางทะเลที่ใหญ่ที่สุดลงบางส่วนเพื่อซ่อมแซมสายเคเบิลหลักที่ถูกตัดขาดจากอุบัติเหตุของสมอเรือที่เข้าเทียบท่าตั้งแต่สองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่ามีการแจ้งว่าการซ่อมแซมมีความคืบหน้าไปมาก แต่วันที่จะกลับมาเปิดดำเนินการยังคงไม่แน่ชัด

+ ซาอุดิอาระเบียคาดจะผลิตน้ำมันดิบราว 9.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน มี.ค. ที่จะมาถึง ซึ่งเป็นการปรับลดกำลังการผลิตมากกว่าระดับที่ตกลงกันในมติการประชุมเพื่อปรับลดกำลังการผลิตระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และประเทศพันธมิตร ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกน้ำมันดิบในเดือน มี.ค. ปรับลดลงเป็น 6.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ หลายฝ่ายจับตามองการประชุมเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ โดยนาย Donald Trump แสดงท่าทียินดีที่จะขยายการผ่อนผันการเพิ่มภาษีการค้าจาก 1 มี.ค. ที่จะมาถึงออกไป ขณะที่นาย Xi Jinping คาดการประชุมจะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อผ่อนผันความตึงเครียด

- Baker Huges เผย สหรัฐฯ เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอีก 3 แห่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรวม 857 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ตลาดเอเชียยังคงได้รับแรงกดดันจากอุปทานน้ำมันเบนซินที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะจากประเทศจีน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคากับน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากผู้ค้าคาดการณ์สภาพตลาดมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม อุปทานในเอเชียยังคงล้นตลาด และไม่สามารถระบายออกไปยังภูมิภาคอื่นได้ ขณะที่จีนมีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 61-66  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ผลการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปก หลังประกาศร่วมมือกันปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับในเดือนต.ค. 61 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบโลก โดยในเดือนก.พ. 62 ผู้ผลิตน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับลดลงกำลังการผลิตมากขึ้

จับตาการเจรจาเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่สหรัฐฯ จะมีการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ากว่า 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ราวร้อยละ 25 ในเดือนมี.ค. 62 โดยล่าสุดในการประชุมเจรจาการค้าวันที่ 14-15 ก.พ. ที่ผ่านมา ระหว่างนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง ส่งสัญญานเชิงบวก

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เผยว่าตลาดน้ำมันดิบมีแนวโน้มอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาดในปี 62 แม้ว่ากลุ่มโอเปกจะปรับลดกำลังการผลิต และสหรัฐฯ จะประกาศคว่ำบาตรอิหร่าน และเวเนซุเอลา เนื่องจาก IEA คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะปรับเพิ่มขึ้นราว 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการผลิตจากสหรัฐฯ ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันโลกคาดว่าจะเติบโตที่ราว 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ 090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503