เลิกเซฟการ์ด! "อุตสาหกรรมเหล็กไทย" ระส่ำ

17 ก.พ. 2562 | 02:33 น.
เลิกเซฟการ์ด "อุตสาหกรรมเหล็กไทย" ระส่ำ วอนรัฐเร่ง ก.ม. ตอบโต้การหลบเลี่ยงทุ่มตลาด สกัดวิกฤติ

หลังจากกระทรวงพาณิชย์ออกมาประกาศผลการพิจารณาชั้นที่สุดไม่ต่ออายุมาตรการปกป้องการนำเข้าสินค้า (เซฟการ์ด) เหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ สวนทางกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ได้เร่งออกมาตรการคุ้มครองอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศของตนช่วงสงครามการค้าสินค้าเหล็กทวีความรุนแรง ได้สร้างความแตกตื่นในกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กทั่วประเทศไทย ทั้งกลุ่มผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนเองและผู้ใช้ส่วนใหญ่ ตลอดจนคู่ค้าทางธุรกิจ เนื่องจากเห็นว่า ทั้งตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมาตรการเซฟการ์ดยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในขณะนี้ และสามารถขยายระยะเวลาบังคับใช้ได้ตามกรอบขององค์การการค้าโลก (WTO) ไม่เกิน 10 ปี

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับอุตสาหกรรมภายในประเทศ หวั่นความเสียหายรุนแรงเกิดตามมา ดังเช่นกรณียุติการไต่สวนการตอบโต้การทุ่มตลาดเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจากประเทศจีน โดยคณะกรรมการตอบโต้การทุ่มตลาดพิจารณาว่า ผู้ประกอบอุตสาหกรรมเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีไม่ได้รับความเสียหายร้ายแรง และสุดท้าย ผลที่เกิดขึ้นจริงปรากฏว่า ผู้ผลิตในประเทศประสบความเสียหายร้ายแรง จนต้องลดการผลิตและเริ่มปลดคนงานหลายร้อยคนแล้ว เนื่องจากไม่สามารถต้านทานการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากสินค้าเหล็กจีนได้

นายนาวา จันทนสุรคน นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย ให้ความเห็นต่อผลการพิจารณาของคณะกรรมการเซฟการ์ด ว่า "สมาคมฯ ซึ่งมีสมาชิกทั้งผู้ผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนทั้งหมด และผู้ใช้สินค้าส่วนใหญ่ ต่างผิดหวังต่อผลการพิจารณาเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากขณะนี้ ผู้ผลิตแต่ละรายได้ดำเนินการตามแผนปรับตัว ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วจำนวนมากและเริ่มมีผลปรับตัวที่กระเตื้องขึ้น แต่กลับถูกนำมาใช้เป็นข้ออ้างในการยุติมาตรการเซฟการ์ด ขณะนี้ ผู้ผลิตในประเทศต้องเตรียมความพร้อมและแผนรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการไหลทะลักของสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ จากการยกเลิกมาตราการเซฟการ์ดครั้งนี้"

ล่าสุด กลุ่มผู้ผลิตในประเทศจึงขอเรียกร้องให้มีการเร่งบังคับใช้บทบัญญัติการตอบโต้การหลบเลี่ยงมาตรการทางการค้า (Anti Circumvention) ในร่างพระราชบัญญัติตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) และตอบโต้การอุดหนุน (Countervailing Duty) ที่กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งหวังว่าจะผ่านการพิจารณาวาระ 2 และ 3 ในเร็ววันนี้

"รวมถึงหากมีความเสียหายและจำเป็น ขอความกรุณาให้กระทรวงพาณิชย์เร่งพิจารณาเพื่อเปิดไต่สวนเคสมาตรการทางการค้าโดยเร็วที่สุด ไม่ใช้เวลาพิจารณาเรื่องนานเกินไป เหมือนกรณีการฟ้องตอบโต้การทุ่มตลาดบางเคส ซึ่งอุตสาหกรรมภายในยื่นคำฟ้องไปเกือบปีกว่าถึงจะเริ่มมีการเปิดไต่สวน แล้วต้องรอการไต่สวนตามระยะเวลาอีก 1 ปี ซึ่งล่าช้ามาก จนความเสียหายร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมภายในได้ลุกลามขยายผล"


200คำพูด

"ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการยุติเซฟการ์ดนี้ ย่อมพิสูจน์ได้จากปริมาณสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนเจืออัลลอยด์ที่จะทะลักเข้ามายังประเทศไทยหลังวันที่ 26 ก.พ. นี้ ว่า จะมีความรุนแรงเพียงใด และหวังว่า หากมีการต้องฟ้องกรณีตอบโต้การทุ่มตลาด หรือ ตอบโต้การหลบเลี่ยง ภาครัฐจะสนองตอบอย่างรวดเร็วในการเปิดไต่สวนและบังคับใช้มาตรการได้ทันต่อเหตุการณ์ดังเช่นประเทศอื่น ๆ รวมถึงความสามารถในการใช้มาตรการทางการค้าอื่น ๆ ด้วย เช่น มาตรการตอบโต้การอุดหนุน ซึ่งมีพระราชบัญญัติออกมาแล้วถึง 20 ปี แต่ประเทศไทยไม่เคยใช้มาตราการนี้เลย"

595959859