'สุวรรณภูมิ' ประสานความร่วมมือทุกหน่วยงานทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับช่วงปิดซ่อมรันเวย์ โดยช่วงปิดซ่อมยังคงเปิดให้บริการได้ตามปกติ ยัน! ไม่กระทบเที่ยวบินล่าช้า
น.ท.สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ทสภ. มีแผนปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออก (Runway 01R-19L) และทางขับออกด่วน (Rapid Exit Taxiway)โดยใช้วงเงิน 180 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งให้มีความคงทนแข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยในช่วงแรกจะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มี.ค. - 15 พ.ค. 2562 และในช่วงที่ 2 จะเริ่มดำเนินการระหว่างวันที่ 8 พ.ย. 2562 - 6 เม.ย. 2563 สำหรับการปิดซ่อมช่วงแรก ทสภ. จะดำเนินการในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงรุ่งเช้า คือ ระหว่างเวลา 01.30-08.30 น. เพื่อให้ผู้รับจ้างรื้อและซ่อมแซมพื้นผิวใหม่
"ท่าอากาศสุวรรณภูมิยังคงให้บริการได้ตามปกติ โดยจะใช้ทางวิ่งฝั่งตะวันตกให้บริการขึ้น-ลงของเที่ยวบินเพียงทางวิ่งเดียว ซึ่งสามารถรองรับได้ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และภายหลังจากเวลา 08.30 น. จะเปิดใช้งานทางวิ่งฝั่งตะวันออก ซึ่งจะทำให้ ทสภ. มีทางวิ่งทั้ง 2 เส้นให้บริการรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบิน ตามปกติ"
น.ท.สุธีวัฒน์ กล่าวต่อว่า เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผน ส่งกระทบกับผู้โดยสารและเที่ยวบินน้อยที่สุด จึงได้จัดทำมาตรการรองรับในกรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า โดยจัดพื้นที่รองรับผู้โดยสารตกค้างไว้ 2,700 ที่นั่ง พร้อมบริการอาหาร เคริ่องดื่มฟรี ทั้งยังมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และวางมาตรการรองรับแบ่งเป็น 5 แผนงาน ประกอบด้วย
1. แผนเตรียมความพร้อมและบำรุงรักษาทางวิ่ง ฝั่งตะวันตก
2. แผนการจัดการจราจรทางอากาศและภาคพื้น
3. แผนฉุกเฉินรองรับกรณีทางวิ่งฝั่งตะวันตกไม่สามารถให้บริการได้ ในระหว่างการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก
4. แผนรองรับผลกระทบในอาคารผู้โดยสาร กรณีเที่ยวบินเกิดความล่าช้า
5. แผนเคลื่อนย้ายอากาศยานที่เกิดเหตุขัดข้องออกจากทางวิ่ง กรณีมีอุบัติเหตุบนทางวิ่ง ทั้งนี้เพื่อให้มีความมั่นใจ ว่า การปิดปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกและทางขับด่วนในครั้งนี้ สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินน้อยที่สุด
น.ท.สุธีรวัฒน์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทสภ. ได้มีการประสานการทำงานร่วมกับ บวท. และสายการบินอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออก จะไม่อนุญาตให้สายการบินเพิ่มเที่ยวบินพิเศษในช่วงเวลาดังกล่าว รวมทั้งจะงดการปิดซ่อมทางวิ่งฝั่งตะวันออกเป็นการชั่วคราวในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8-19 เม.ย. 2562 ด้วย
ด้าน นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ปฏิบัติการ) บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด เผยถึงมาตรการและแนวทางการบริหารจัดการ การให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. ถึงวันที่ 15 พ.ค. 2562 เพื่อรองรับการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่งฝั่งตะวันออก (ทางวิ่ง 19L/01R) ช่วงกึ่งกลางทางวิ่งระหว่างทางขับ B7 ถึง ทางขับ B10 ระยะทาง 900 เมตร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 15 พ.ค. 2562 ในช่วงเวลา 01.30-08.30 น. (7 ชั่วโมง) ของแต่ละวัน ยกเว้นคืนวันศุกร์
อีกทั้งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 8-18 เม.ย. 2562 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว วิทยุการบินฯ จะให้บริการแบบ Single Runway Operation โดยใช้ทางวิ่งเส้นเดียวในการขึ้น/ลง ซึ่งเป็นมาตรการปกติที่วิทยุการบินฯ ใช้ในกรณีที่มีการปิดซ่อมแซมพื้นผิวทางวิ่ง สำหรับความสามารถในการรองรับปริมาณเที่ยวบินในช่วงวันและเวลาที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งดังกล่าว คาดว่าจะลดลงจากช่วงเวลาปกติที่รองรับได้ 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เหลือ 34 เที่ยวบินต่อชั่วโมง คิดเป็น 50% ของช่วงเวลาปกติ โดยสามารถรองรับเที่ยวบินขาเข้าได้ 18 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และเที่ยวบินขาออกได้ 16 เที่ยวบินต่อชั่วโมง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้เกิดการล่าช้าของเที่ยวบินบ้าง แต่คาดว่าจะมีเที่ยวบินล่าช้าประมาณ 20 เที่ยวบินต่อวัน โดยล่าช้าเฉลี่ย 10 นาที และสูงสุดไม่เกิน 20 นาที เช่น การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ ไทยสมายล์ และสายการบินระหว่างประเทศ
"วิทยุการบินฯ จะใช้หลักการบริหารความคล่องตัวการจราจรทางอากาศ Air Traffic Flow Management ในการบริหารจัดการปริมาณเที่ยวบิน โดยได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งเตรียมแนวทางปฏิบัติรองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน และการใช้สนามบินสำรอง พร้อมมีการจัดตั้งศูนย์ประสานงาน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับกรณีเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ อีกด้วย"
ส่วน นายธีระ บัวศรี ประธานคณะกรรมการดำเนินงานธุรกิจการบินกรุงเทพ AOC กล่าวว่า การปิดซ่อมพื้นผิวในครั้งนี้เป็นการปิดซ่อมระยะยาว ดังนั้น แม้ว่าในแผนการดำเนินงานจะต้องมีผลกระทบสายการบินและเที่ยวบินที่ทำการบินอยู่ในช่วงเวลาที่ปฏิบัติการปิดพื้นที่เพื่อซ่อม แต่ก็สามารถลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ ในส่วนของการเตรียมการของสายการบิน เบื้องต้น ได้แจ้งให้ทุกสายการบินรับทราบข้อมูลตารางงานการซ่อมแซมพื้นผิว เรื่องแผนการสำรองน้ำมัน เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน
ทั้งเฝ้าระวังการบริการเที่ยวบินของสายการบินและผู้ให้บริการภาคพื้น การบริหารอาคารผู้โดยสารและหลุมจอดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งการบริหารห้วงอากาศของวิทยุการบิน (AEROTHAI) โดยทาง บริษัท วิทยุการบินฯ ได้ให้ความร่วมมือโดยการขยายเวลาในการใช้ A-CDM (Airport Collaborative Decision Making) โดยเริ่มจากเวลา 03.00-12.00 น. ของทุกวัน ทั้งนี้ หลังจากการทำการปิดทางวิ่งไปแล้ว 2 อาทิตย์ (14 วัน) แต่ละสายการบินจะทำการปรับเพิ่มหรือลดน้ำมันตามความเหมาะสมต่อไป