มธ. ผนึก แบงค์กรุงเทพ ผุดอีโคซิสเต็มผสานไอเดียสตาร์ทอัพ

16 ก.พ. 2562 | 02:00 น.
ธรรมศาสตร์ จับมือ ธนาคารกรุงเทพ เปิดตัว “Startup Ecosystem @TU” พื้นที่บ่มเพาะ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสตาร์ทอัพระหว่างประเทศเพื่อขยายตลาด

รองศาสตราจารย์เกศินี รองศาสตราจารย์เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า การสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ด้วยการเปิด “Startup Ecosystem @TU” นอกจากเป็นพื้นที่บ่มเพาะ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนสตาร์ทอัพ ระหว่างประเทศ ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการดึงธุรกิจเข้ามาเชื่อมต่อกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ทั้งในระดับการเรียนการสอน การฝึกงาน หรือการตั้งธุรกิจจริง สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนธรรมศาสตร์ให้เป็นมหาวิทยาลัยแห่งผู้ประกอบการ โดยสตาร์ทอัพที่รับการบ่มเพาะไม่จำเป็นต้องเป็นบัณฑิตของธรรมศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นกลุ่มที่ใช้ไลเซนส์สิทธิบัตร นวัตกรรมที่อาจารย์ธรรมศาสตร์คิดค้นขึ้นด้วย

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีเครือข่ายพันธมิตร เช่น ธนาคารกรุงเทพ ที่ร่วมสนับสนุน Startup Ecosystem@TU โดยขณะนี้ได้มีโครงการใหม่ร่วมกันเรียกว่า Startup Exchange Program คือการส่งสตาร์ทอัพไทยไปแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายพันธมิตรในต่างประเทศ เริ่มจากสิงคโปร์ ซึ่งมีการพัฒนาเครือข่ายฐานผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้สตาร์ทอัพไทยขยายตลาดได้อย่างรวดเร็ว

นายชาติศิริ โสภณพนิช นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีโครงการ InnoHub เป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพ การร่วมร่วมมือกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะเป็นอีกส่วนในการผลักดันให้สตาร์ทอัพได้ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะช่วยทำให้ขับเคลื่อนธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ส่วนของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ยังมี Co-working Space อีก 10 บริษัท และกำลังสร้างพื้นที่เพิ่มเติมเป็น Deep Tech ที่สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภายใต้การสนับสนุนของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าในระยะแรกจะมีนักศึกษาเข้าร่วมฝึกงานในบริษัทสตาร์ทอัพ ที่เข้ามาตั้งในพื้นที่บ่มเพาะของมหาวิทยาลัย 50 คน และจะใช้โมเดลนี้เป็นต้นแบบ ในการขยายไปสู่คณะต่างๆ ในมหาวิทยาลัยที่ต้องการสร้างแหล่งบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จะมีคณะกรรมการคัดเลือกสตาร์ทอัพที่สนใจ เข้าใช้บริการพื้นที่บ่มเพาะของมหาวิทยาลัย

ศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ ลีมัคเดช ผู้อำนวยการศูนย์ทรัพย์สินทางปัญญาและบ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า หนึ่งในโครงการที่ธรรมศาสตร์สนับสนุน Startup คือโครงการแลกเปลี่ยนหรือ Startup Exchange โดยจะคัดเลือก Startup ในพื้นที่มหาวิทยาลัย บริษัทละ 2 คน เพื่อไปทำงานในพื้นที่บ่มเพาะต่างประเทศ ประโยชน์ที่จะได้รับคือการเรียนรู้วิธีการทำงานของสตาร์ทอัพในต่างประเทศ โอกาสและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ เนื่องจากปัญหาของสตาร์ทอัพไทย คือขนาดตลาดภายในประเทศที่เล็กเกินไป ส่วนสตาร์ทอัพที่อยู่ในประเทศก็จะเรียนรู้จากสตาร์ทอัพต่างประเทศที่เข้ามาทำงานในพื้นที่

595959859-10-503x60