'ทิพยประกันภัย' ลั่น! ปั๊มเบี้ยโต 2 เท่าจีดีพี

19 ก.พ. 2562 | 08:31 น.
'ทิพยประกันภัย' เปิดแผนปี 62 ตั้งเป้าปั๊มเบี้ยโต 2 เท่าของจีดีพี หรือ 8% จากเบี้ยรับอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท ประกาศบุกตลาดประกันรถยนต์เต็มสูบ ระบบหลังบ้าน Big Data พร้อมเล็งขยับสัดส่วนพอร์ตเพิ่ม 5% จาก 14.5% ชูกลยุทธ์ "สินไหมนำตลาด" เน้นบริการหลังการขาย ออกแบบโปรดักต์เฉพาะ

นายสมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น ทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น และเชื่อว่า โครงการภาครัฐจะทยอยออกมา รวมถึงเอกชนได้เริ่มวางแผนการลงทุน ซึ่งจะส่งผลดีในแง่ธุรกิจประกันที่จะปรับตัวดีขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโต ทั้งในแง่เบี้ยรับประกันภัยและกำไรอยู่ที่ 2 เท่าของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ที่น่าจะอยู่ที่ 4% หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวมโต 8% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย จากปกติที่ธุรกิจประกันภัยจะขยายตัวตํ่ากว่าจีดีพี

 

[caption id="attachment_389966" align="aligncenter" width="404"] สมพร สืบถวิลกุล สมพร สืบถวิลกุล[/caption]

อย่างไรก็ดี ภายในปีนี้ บริษัทจะเน้นการเติบโตในกลุ่มธุรกิจประกันภัยรายย่อยมากขึ้น โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ จะเห็นว่า เบี้ยในธุรกิจประกันภัย 60% จะมาจากประกันภัยรถยนต์ ถือว่ามีโอกาสเติบโตค่อนข้างมาก ประกอบกับช่วงปีที่ผ่านมา บริษัทปรับปรุงระบบหลังบ้านเสร็จ จึงพร้อมที่จะลุยธุรกิจประกันภัยรถยนต์มากขึ้น แต่จะไม่เน้นแข่งลดเบี้ยประกัน เพราะเชื่อว่า ลูกค้าประกันภัยรถยนต์ส่วนใหญ่ต้องการแสวงหาประกันที่ให้บริการที่ดีและคุ้มค่า (Value for Money) จึงเกิดกลยุทธ์ "สินไหมนำตลาด" ของบริษัทในปีนี้ ที่จะเน้นให้บริการหลังการขาย รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับลูกค้ามากขึ้น

ดังนั้น บริษัทคาดว่า ภายในปีนี้จะสามารถขยับสัดส่วนพอร์ตประกันภัยรถยนต์เพิ่มขึ้นอีก 5% จากปัจจุบันอยู่ที่ 14.5% หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับ 3,000 ล้านบาท จากพอร์ตเบี้ยรับรวม 2 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็น ธุรกิจประกันที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non Motor) ที่ประกอบด้วย เบี้ยประกันการเดินทาง (TA) และประกันสุขภาพ (PA) อยู่ที่ 7,000 ล้านบาท ประกันภัยขนส่งทางทะเล (Marine) อยู่ที่ 400 ล้านบาท และเบี้ยประกันอัคคีภัย 200 ล้านบาท และที่เหลือจะเป็นประกันภัยรถยนต์ (Motor)

 

[caption id="attachment_389552" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

บริษัทยังต้องการลดอัตราความเสียหายและค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) จาก 67% ให้ลงมาที่ 65% ภายในสิ้นปีนี้ โดยกลยุทธ์จะมาจากการปรับวิธีวิเคราะห์เบี้ยประกัน โดยจะใช้ข้อมูลจาก Big Data มาช่วยวิเคราะห์ เช่น วิเคราะห์จากพื้นที่ อย่าง กรุงเทพฯ หรือ แม่ฮ่องสอน ความเสี่ยงไม่เท่ากัน หรือตามยี่ห้อรถยนต์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับความเสี่ยง จากเดิมจะได้ราคาเบี้ยเท่ากัน หรือ One Size Fits All ทั้งความเสี่ยงสูงและต่ำ และเร็ว ๆ นี้ จะออกผลิตภัณฑ์ Grand Age สำหรับคนสูงวัยที่สุขภาพค่อนข้างดี

ส่วนธุรกิจประกัน Non Motor จะสอดคล้องตามทิศทางการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลที่จะมีออกมาอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากรัฐบาลได้ผู้รับเหมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งบริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการภาครัฐในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อย่างน้อยประมาณ 60% ของโครงการทั้งหมดที่ออกมา หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับราว 1,000 ล้านบาท

หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,445 วันที่  17 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว