"ป.ป.ช." แนะพรรคการเมือง นำเกณฑ์วัดความเสี่ยงทุจริตเชิงนโยบายช่วงหาเสียง

15 ก.พ. 2562 | 09:21 น.
ประธาน ป.ป.ช. ลงนามในหนังสือหลักเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายมอบให้ กกต. นำไปให้พรรคการเมืองใช้เป็นกรอบในการหาเสียง วอนประชาชนมีส่วนร่วมเฝ้าระวังความผิดปกติ

619284820
วันนี้ (15 ก.พ. 62) นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ลงนามในหนังสือนำส่งหลักเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายและคู่มือการใช้เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้สำนักงาน กกต. นำไปใช้เป็นหลักเกณฑ์ที่จะให้พรรคการเมืองใช้เป็นกรอบในการพัฒนาและกำหนดนโยบายของพรรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย โดยให้พรรคการเมืองนำนโยบายของพรรคที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งไปเทียบกับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย เพื่อตรวจสอบว่า นโยบายดังกล่าวมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักเกณฑ์นี้หรือไม่ และนอกจากนี้ ขั้นตอนสำคัญอีกขั้นตอนที่พวกเราต้องจับตามองมากที่สุด คือ ขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ที่หน่วยงานรัฐจะเป็นผู้ปฏิบัติตามเกณฑ์ในขั้นตอนนี้ ซึ่งจะเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้รับการเลือกตั้ง มีการจัดตั้งรัฐบาล และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว

สำหรับเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบายดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย ในขั้นตอนการพัฒนานโยบาย กำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมิน 5 เกณฑ์ ได้แก่ 1.การแสดงความเชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทตามยุทธศาสตร์ชาติ 2.การกำหนดวัตถุประสงค์ของนโยบาย 3.การประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย 4.มีกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบ ความคุ้มค่าความเป็นไปได้ และความเสี่ยงของนโยบายด้วยการมีส่วนร่วมอย่างเป็นระบบ และ 5.การเสริมสร้างความโปร่งใสในการพัฒนานโยบายของพรรคการเมือง และเกณฑ์ชี้วัดความเสี่ยงต่อการทุจริตเชิงนโยบาย

ในขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ กำหนดเป็นเกณฑ์ชี้วัดสำหรับการประเมินได้ 4 เกณฑ์ ได้แก่ 1.มีการเตรียมการประเมินความเสี่ยงต่อการทุจริตในขั้นก่อนการดำเนินการตามนโยบาย 2.มีการเตรียมการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริตและการติดตามการดำเนินการตามนโยบาย 3.มีการเตรียมการประเมินผลการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริต และ 4.มีการเตรียมการสร้างความโปร่งใสในขั้นการนำนโยบายสู่การปฏิบัติด้วยการสื่อสารการบริหารจัดการความเสี่ยงต่อการทุจริตและการสร้างการเฝ้าระวัง

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้หลักเกณฑ์นี้ประสบความสำเร็จได้ คือ เราจะต้องได้รับความร่วมมือจากองค์กรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและนำหลักเกณฑ์นี้ไปใช้ นอกจากนี้ ยังรวมถึงการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง มอนิเตอร์ความผิดปกติ โดยเฉพาะขั้นตอนการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญในการเข้าไปแก้ไขปัญหาในอนาคตด้วย

595959859