เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกหนึ่งเจ้า สำหรับบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกยานยนต์รายใหญ่ของบ้านเรา ซึ่งความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร “ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี- เอเชีย จะมาบอกเล่า พร้อมเปิดแผนรุกของปีนี้ว่าจะไปในทิศทางไหน
[caption id="attachment_389742" align="aligncenter" width="503"]
ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ[/caption]
เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ
ความพร้อมตอนนี้ประมาณ 80-90% แล้ว คาดว่าภายในปี 2562 เราจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งการตัดสินใจในครั้งนี้จะเปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัว ไปสู่ธุรกิจที่จะขยายตัวได้เร็วขึ้น
แผนลงทุนรวมในปี 2562
บริษัทมีการวางแผนที่จะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล 5.0 อย่างเต็มรูปแบบ ดังนั้นจึงมีการนำระบบมาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชัน มาใช้กับกับฐานลูกค้าที่มีกว่า 5 แสนราย รวมไปถึงลูกค้าผู้มุ่งหวังกว่า7 แสนราย โดยจะมีการนำข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์และยกระดับการสื่อสาร พร้อมสร้างประสบการณ์กับกลุ่มลูกค้าและ การพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล เพื่อสร้างบริการแบบใหม่ที่ง่ายและสะดวก เช่น การทำแอพพลิเคชันสำหรับรถเช่า ซิกท์ รวมถึงการริเริ่มทำดิจิทัลโชว์รูมของ ZUPERCAR และเพิ่มบริการสำหรับลูกค้าฮอนด้า ซัมมิท ผ่าน 1334 HONDA SUMMIT CONNECT ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารกับลูกค้า โดยรวมปีนี้คาดว่าจะใช้เงินอีกประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งรวมไปถึงค่าอาคารสถานที่ และการลงทุนเกี่ยวกับระบบไอทีในเฟส 2
รถรุ่นใหม่-ปรับปรุงเครือข่าย
ในปีนี้จะเปิดตัวแบรนด์ใหม่ รวมถึงรถรุ่นใหม่หลายรุ่นจากหลายแบรนด์ที่ทำตลาด อาทิ แอสตัน มาร์ติน รวมไปถึงเรืออะซิมุทที่เพิ่งเผยโฉมในรุ่น ฟลายบริดจ์ ราคากว่า 2 ล้านยูโร
ขณะที่แผนงานด้านเครือข่ายในมิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ลาดพร้าว จะมีการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสำหรับ บีเอ็ม ดับเบิลยู พรีเมียมซีเล็กชั่น และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด รวมถึงการขยายศูนย์บริการรูปแบบใหม่ บีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส แฟคตอรี่ เอาท์เล็ต(SFO)ที่พระราม 4 และจะเปิดบีเอ็มดับเบิลยู เซอร์วิส เอาท์เล็ต โอนลี่(SOO)ที่สุราษฎร์ธานีส่วนเอ็มเอ็มเอส บ็อชคาร์เซอร์วิส ปัจจุบันมี15สาขา และในปีนี้จะขยายเพิ่มอีก8สาขา
อีกหน่วยธุรกิจที่บริษัทมีความสนใจและกำลังเจรจากับพาร์ตเนอร์คือออโตโนมัส, คาร์ แชริ่ง, อิเล็กทรอนิกส์ชาร์จิ้งซึ่งทั้งหมดนี้เป็น เทรนด์ของอนาคต 3-5 ปีข้างหน้า
เป้าหมายการขาย
ในปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโต 15 % โดยจะขายรถใหม่ไม่ตํ่ากว่า 1.3 หมื่นคัน และคิดเป็นรายได้รวม 2.8 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2561 มีรายได้รวม 2.5 หมื่นล้านบาท เมื่อแบ่งสัดส่วนจะพบว่ากลุ่มธุรกิจรถใหม่เติบโต 20% และกลุ่มธุรกิจการบริการหลังการขาย เติบโต 9% กลุ่มธุรกิจรถเช่าเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และธุรกิจประกันภัยเติบโตกว่า 30% ขณะที่เป้าหมาย 5 หมื่นล้านบาทที่เคยประกาศเอาไว้คาดว่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้ภายใน 3 ปี
หน้า 28-29 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,445 วันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562