จุดแข็งหลังบ้าน

ธุรกิจครอบครัวเป็นรูปแบบองค์กรที่มีวัฒนธรรมแข็งแกร่งที่สุดรูปแบบหนึ่ง โดยวัฒนธรรมเป็นผลมาจากสิ่งที่คนกลุ่มหนึ่งคิดและแบ่งปันร่วมกันว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับพวกเขา ก็คือค่านิยมหรือความเชื่อ มั่นพื้นฐานนั่นเอง และมีอิทธิพลต่อวิธีการปฏิสัมพันธ์ต่อกัน รวมถึงต่อโลกรอบตัวพวกเขา มีผลวิจัยทำให้เชื่อได้ว่าวัฒนธรรมของธุรกิจครอบครัวมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่ง ยั่งยืนและมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น รวมถึงสามารถอธิบายให้แก่คนในและคนนอกธุรกิจได้ เนื่องจากมุมมองของผู้ก่อตั้งมีความเชื่อมโยงกันอย่างมากกับวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของครอบครัว จึงทำให้วัฒนธรรมมีอิทธิพลต่อความสำเร็จของธุรกิจ เพราะส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิธีการตัดสินใจที่สำคัญในบริษัท

หากวัฒนธรรมเข้มแข็งก็จะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรได้ นอกจากนี้การเผชิญกับการแข่งขันที่มากขึ้น อันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการในอุตสาหกรรม สงครามราคา คู่แข่งใหม่และผลกระทบของเทคโนโลยี เป็นต้น ทำให้ธุรกิจจำเป็นต้องลงทุนเพื่อสร้างความแตกต่างที่สำคัญในการแข่งขัน แม้วัฒนธรรมองค์กร อาจไม่ใช่สิ่งแรกที่นึกถึงว่าเป็นความได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญ แต่งานวิจัยเกี่ยวกับวัฒนธรรมของธุรกิจครอบครัวได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างวัฒนธรรมองค์กรและผลประกอบการที่เหนือกว่า

เมื่อผู้ก่อตั้งธุรกิจกำหนดวัฒนธรรมของธุรกิจครอบครัวไว้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการสร้างความยั่งยืนแล้ว ในส่วนของครอบ ครัวก็ต้องมีบทบาทในการสร้างและรักษามิตินี้ของธุรกิจครอบครัวต่อไป ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าครอบครัวมีส่วนช่วยสร้างวัฒนธรรมในธุรกิจครอบครัวไม่ว่าพวกเขาจะทำงานอยู่ในธุรกิจและ/หรือมีหุ้นอยู่หรือไม่ก็ตาม จากบทบาทของครอบครัวดังต่อไปนี้

1.สมาชิกในครอบครัวมีผลกระทบต่อวัฒนธรรมเพราะพวกเขาเป็นเจ้าของที่มีความผูก พันกับองค์กรมาก ซึ่งค่านิยมของครอบครัวจะถูกแสดงออกผ่านการ ตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท และวิธีที่บริษัทปฏิบัติต่อพนักงาน ลูกค้า ผู้ขาย สภาพแวดล้อมและอื่นๆ

2. สมาชิกในครอบครัวเป็นคนกำหนดความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของครอบครัว และทำหน้าที่ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับการลงทุนที่สำคัญ

3. สมาชิกในครอบครัวมีความภาคภูมิใจในการแสดงออกต่อสาธารณะในชุมชน เนื่องจากครอบครัวมักมีส่วนร่วมในชุมชน เช่น การระดมทุนให้โรงพยาบาลหรือการให้บริการแบบไม่แสวงผลกำไรในท้องถิ่นหรือเป็นคณะกรรมการการศึกษา

4. สมาชิกในครอบครัวคิดว่าตนเองเป็นผู้พิทักษ์หรือทูตของบริษัทและค่านิยมของบริษัท และพยายามที่จะพบปะกับพนักงาน หรือเขียนประวัติของธุรกิจและครอบครัว

ธุรกิจครอบ ครัวมักได้รับการชี้นำและดูแลจากสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับแนวทางมาจากค่านิยมที่ผู้ก่อตั้งได้ปลูกฝังไว้ในแต่ละวันจากการทำงานในธุรกิจ ค่านิยมเหล่านั้นมักจะสั่งสมความภักดีจากครอบครัวและคนที่ไม่ใช่สมาชิกในครอบครัวที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับมรดกทางธุรกิจนี้ อีกทั้งความยืนยาวของค่านิยมเหล่านี้ยังช่วยรักษาลักษณะเฉพาะที่ส่งเสริมวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้ ซึ่งอาจเป็นวัฒนธรรมผู้ประกอบการและวัฒนธรรมที่เน้นการปฏิบัติต่อสิ่งที่ให้ความสำคัญนอกเหนือจากการทำกำไร เช่น พนักงาน ชุมชนและสิ่งแวดล้อม จากการวิจัยพบว่าธุรกิจครอบครัวจะมุ่งโฟกัสมากกว่าแค่ผลกำไรแต่กลับสามารถทำกำไรได้มากกว่า นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมคือในบางระดับเราสามารถสังเกตและอาจอธิบายได้ แต่ไม่สามารถที่จะเลียนแบบได้เนื่องจากมีความซับซ้อนมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วัฒนธรรมมีความเฉพาะตัวเหมือนลายนิ้วมือ วัฒนธรรมที่เข้มแข็งในธุรกิจครอบครัวเกิดขึ้นจากแบบพิมพ์ถาวรที่ผู้ก่อตั้งทิ้งไว้ และยังรวมถึงจากการยึดมั่นในหลักการสำคัญที่นำทางครอบครัวและทายาทหลายชั่วอายุคน อย่างไรก็ตามวัฒนธรรมจะต้องได้รับการหล่อเลี้ยงและพัฒนาตลอดเวลาเพื่อสะท้อนการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและการปรับตัวภายใน ความยั่งยืนของค่านิยมและความเชื่อในครอบครัวจะสร้างความมั่นคงได้แม้จะต้องผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลงผู้นำและความวุ่นวายในอุตสาหกรรมก็ตาม ซึ่งนี่เป็นลักษณะเฉพาะของธุรกิจครอบครัวและเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเลยก็ว่าได้

คอลัมน์ | หน้า 31 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,445 ระหว่างวันที่ 17 - 20 กุมภาพันธ์ 2562