“ไฮเนเก้น” เปิดแนวคิดสู่ “การพลิกมุมใหม่” (Fresh Perspective)

13 ก.พ. 2562 | 10:41 น.
“ไฮเนเก้น” เผยแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ “การพลิกมุมใหม่ หรือ Fresh Perspective” สู่การสื่อสารแบรนด์กับชาวมิลเลนเนียล พร้อมเปิดเกมบุกตลาดรับปี 62 ทั้งดีไซน์ของแพคเกจใหม่ ควบคู่การสื่อสารออนไลน์แบบ always-on  และดนตรี/อีเวนต์ หวังสร้างการรับรู้และจดจำในตราสินค้า รวมไปถึงการรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดเบียร์พรีเมี่ยมกับกลุ่มคนมิลเลนเนียล ตั้งเป้าการเติบโตสิ้นปีที่ 9%

นางสาวอีลิน โลห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกลุ่มบริษัท ทีเอพี เปิดเผยว่า “เราเชื่อว่ามุมมองการใช้ชีวิตเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในยุคนี้ เพราะเมื่อคุณเปิดแนวคิดของคุณ พลิกมามองในมุมใหม่ที่เป็นบวก คุณก็จะเห็นมุมที่แตกต่างและสามารถสนุกกับชีวิตได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยแนวคิดและความเชื่อใหม่ของไฮเนเก้นจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจและความรู้สึกที่ดีจากการเห็นมุมมองใหม่ๆ ที่เข้าถึงทุกคนได้ เป็นการเปิดมุมมองและความเชื่อเดิมที่ทุกคนอาจจะรู้ดีอยู่แล้ว มาถ่ายทอด สื่อสาร พร้อมตีความในมุมมองใหม่เพื่อสะท้อนแนวคิดในแบบฉบับของแบรนด์ไฮเนเก้น ที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและใช้ชีวิตในปัจจุบันได้อย่างสนุกและมีความสุขมากขึ้น”

gHB36Te8

ทั้งนี้ในปัจจุบันนี้ คนยุคมิลเลนเนียล (อายุระหว่าง 23-38 ปี) เป็นกลุ่มคนที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม โดยพวกเขามีความรู้สึกว่าต้องทนกับแรงกดดัน ทั้งในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ค่อนข้างสูง พวกเขารู้สึกถึงความเครียดที่ได้รับจากปัจจัยต่างๆ และด้วยเหตุนี้เองแบรนด์ไฮเนเก้นจึงได้เผยแนวคิดของแบรนด์กับความเชื่อใหม่ที่จะเจาะเข้าถึงกลุ่มคนผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียลให้ได้เข้าใจและตอบโจทย์กับพวกเขา โดยเลือกหยิบยกมุมมองที่จะสื่อสารออกไปยังกลุ่มคนผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล ด้วยประเด็นในหลากหลายแง่มุมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพวกเขาอาทิ การเดินทางในชีวิตประจำวัน, การทำงาน, การสังสรรค์ในวาระต่างๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสามัญที่เกิดขึ้นในชีวิตรอบๆ ตัวแต่ละวันของผู้คนในยุคนี้ โดยสามารถถ่ายทอดมุมมองและพลิกให้กลายเป็นความสนุกสนานขึ้นมาได้

ขณะที่ประเด็นสื่อสารหลักเกี่ยวกับแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์นี้ ถูกตีโจทย์ออกมาผ่านกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์แพคเกจใหม่ที่ หรือแม้กระทั่งกิจกรรมออนไลน์ใน Owned media แบบ always-on ที่ยังคงตอกย้ำการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ในคอนเทนต์ต่างๆ ทางออนไลน์ที่เกี่ยวกับการพลิกความคิดให้มองในด้านบวก โดยตั้งเป้ายอด engagement กลุ่มเป้าหมายให้ขยับขึ้น 10% จากปีก่อนรวมไปถึงงานเทศกาลดนตรีหรือการสนับสนุนอีเวนต์ต่างๆ ที่จะยังคงมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับกลุ่มผู้บริโภคของแบรนด์อย่างเช่นเคย

สำหรับมิวสิคมาร์เก็ตติ้งในปีนี้บริษัทยังทำหน้าที่เป็น Music Marketing Expertise ที่มีความเข้าใจในองค์ประกอบทางดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเทรนด์ของตลาด และความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริงโดยยังคงสานต่อความเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์ด้วยจุดแข็งที่มีอย่าง Global Standard in Music Platform พร้อมเครือข่ายระดับโลกในการเป็นผู้นำสนับสนุนงานระดับเวิลด์คลาสต่างๆ พร้อมศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับสากลที่สอดคล้องกับแบรนด์ดีเอ็นเอ โดยในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้สนับสนุนหลักของงานเทศกาลดนตรียักษ์ใหญ่ระดับประเทศอย่าง S2O ที่จะนำเอา “มุมมองใหม่ (Fresh perspective)” เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการสื่อสารการตลาด ซึ่งจะต่อยอดจากกลยุทธ์มิวสิคมาร์เก็ตติ้งในปีก่อนอย่าง “Heineken® Star Hive” เป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านมิวสิค อีเวนต์และการสนับสนุนศิลปินนานาชาติในงานดนตรีสำคัญๆ ที่มีบุคลิกสอดคล้องกับแนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์

unnamed (12)

อย่างไรก็ตามปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์มีมูลค่า 139,000 ล้านบาท (ณ สิ้นปี 2561) แบ่งเป็นเซกเมนต์เมนสตรีม 130,600 ล้านบาท เซกเมนต์พรีเมียม 6,400 ล้านบาท ที่เหลือคือ เซฟวิ่ง รวมถึงเบียร์อิมพอร์ต โดยแบรนด์ไฮเนเก้นยังคงเป็นผู้นำตลาดในเซกเมนต์พรีเมียมด้วยส่วนแบ่งตลาด 95.1% และ 4.2% ของตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยรวม โดยตั้งเป้าการเติบโตสิ้นปีที่ 9%

“เราเชื่อมั่นว่า แนวคิดและความเชื่อใหม่ของแบรนด์ที่จะถ่ายทอดผ่านแคมเปญการตลาดต่างๆ จะเข้าถึงและโดนใจกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น จะช่วยขยายฐานแบรนด์เลิฟในกลุ่มมิลเลนเนียล เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ เพิ่มความนิยมของแบรนด์รวมทั้งกระตุ้นให้ทั้งตลาดเบียร์มีสีสันได้ในปี 2562 นี้”