"อะคิโยชิ" ฉลองครบรอบ 24 ปี ปรับโฉมร้านใหม่/ขยายสาขาไทย-เทศ
“อะคิโยชิ ” ร้านชาบู ชาบู-สุกี้ยากี้ สไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในไทย ชูแผนงานฉลอง 24 ปี รุกตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มสูบทั้งปรับโฉมร้านใหม่ สู่รูปแบบหรูหรา ร่วมสมัย หวังขยายฐานคนรุ่นใหม่ที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน พร้อมสยายปีกสาขาใหม่ "จามจุรีสแควร์" ก่อนปูพรมต่างประเทศ มั่นใจสิ้นปีโกยรายได้ 220 ล้านบาท
นางสาวศรีหทัย ไพรสานฑ์กุล รองประธานกรรมการ บริษัท อะคิโยชิ จำกัด ผู้บริหารร้านชาบู ชาบู-สุกี้ยากี้ สไตล์ญี่ปุ่น "อะคิโยชิ" เปิดเผยว่า "อะคิโยชิ" เป็นร้านอาหารประเภทชาบู ชาบู-สุกี้ยากี้ สไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 24 ปี โดยคงเอกลักษณ์ตามต้นตำรับจากเมืองชิบาซากิ ประเทศญี่ปุ่นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ เครื่องปรุง การปรุงอาหาร ที่ได้รับการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพจากเชฟชาวญี่ปุ่น และเพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ทางร้าน "อะคิโยชิ" สาขาแรกที่พระโขนง จึงถูกปรับแต่งสถานที่ให้หรูหรา ร่วมสมัย รองรับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน พร้อมเสิร์ฟรสชาติอาหารดั้งเดิมที่ครองใจทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
"เสน่ห์ในการรับประทานสุกี้ยากี้ที่อะคิโยชิ คือความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการผัดสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นที่จะต้องผัดผักและเนื้อสัตว์ก่อนและจึงเติมน้ำซุป ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานและทำให้สุกี้ยากี้นั้นกลมกล่อมอีกด้วย เรารักษาวัฒนธรรมการรับประทานแบบนี้ไว้ที่นี่ โดยไม่ลืมที่จะให้บริการด้วยสถานที่อันหรูหราบรรยากาศดีตามยุคสมัย นอกจากชาบูชาบู-สุกี้ยากี้แล้ว เรายังให้บริการเมนูปิ้งย่างอะคิยากิ ซึ่งเมนูนี้เราได้พัฒนามาเพื่อเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มการทางเลือกในการรับประทานให้กับลูกค้า เรียกว่ามาที่อะคิโยชิที่เดียวครบเลย"
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาทาง "อาคิโยชิ" ทำได้ที่ 160 ล้านบาท ส่วนในปี 2562 นี้คาดหวังว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านบาท โดยในกลางปี 2562 นี้จะมีการเปิดสาขาใหม่ขึ้นที่ "จามจุรีสแควร์" ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ 7 โดยที่ขนาดร้านมีเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ม. เมนูต่างๆที่จะมีให้เลือกจะเหมือนกับทางต้นตำรับสาขาแรพระโขนงทั้งหมด"
ขณะเดียวกันในปีนี้ อะคิโยชิครบรอบ 24 ปี ทางร้านจึงถือโอกาสปรับปรุงสาขาพระโขนง ที่ถือได้ว่าเป็นสาขาแรกในประเทศไทยซึ่งการปรับปรุงครั้งนี้เพิ่งแล้วเสร็จในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สำหรับการปรับปรุงร้านนอกจากจะปรับภาพลักษณ์ ทัศนียภาพให้ดูหรูหราตามแบบฉบับสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว อีกประการหนึ่งคือเพื่อรองรับการขยายตัวของแหล่งสุดฮิตฮอตของเหล่านักชิมที่เริ่มขยายตัวออกมาจากแถบชิดลม เพลินจิต อโศกและทองหล่อซึ่งปัจจุบันได้ขยายวงกว้างถึงย่านอ่อนนุช และในปีนี้ทางอะคิโยชิก็ได้คัดสรรวัตถุดิบ ที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่นมาให้คนไทยลิ้มลองกันมากขึ้น
นางสาวศรีหทัย ไพรสานฑ์กุล รองประธานกรรมการ บริษัท อะคิโยชิ จำกัด ผู้บริหารร้านชาบู ชาบู-สุกี้ยากี้ สไตล์ญี่ปุ่น "อะคิโยชิ" เปิดเผยว่า "อะคิโยชิ" เป็นร้านอาหารประเภทชาบู ชาบู-สุกี้ยากี้ สไตล์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 24 ปี โดยคงเอกลักษณ์ตามต้นตำรับจากเมืองชิบาซากิ ประเทศญี่ปุ่นทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ เครื่องปรุง การปรุงอาหาร ที่ได้รับการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพจากเชฟชาวญี่ปุ่น และเพื่อสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ทางร้าน "อะคิโยชิ" สาขาแรกที่พระโขนง จึงถูกปรับแต่งสถานที่ให้หรูหรา ร่วมสมัย รองรับรสนิยมของคนรุ่นใหม่ที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้าน พร้อมเสิร์ฟรสชาติอาหารดั้งเดิมที่ครองใจทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
"เสน่ห์ในการรับประทานสุกี้ยากี้ที่อะคิโยชิ คือความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการผัดสุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นที่จะต้องผัดผักและเนื้อสัตว์ก่อนและจึงเติมน้ำซุป ซึ่งจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานและทำให้สุกี้ยากี้นั้นกลมกล่อมอีกด้วย เรารักษาวัฒนธรรมการรับประทานแบบนี้ไว้ที่นี่ โดยไม่ลืมที่จะให้บริการด้วยสถานที่อันหรูหราบรรยากาศดีตามยุคสมัย นอกจากชาบูชาบู-สุกี้ยากี้แล้ว เรายังให้บริการเมนูปิ้งย่างอะคิยากิ ซึ่งเมนูนี้เราได้พัฒนามาเพื่อเพิ่มความหลากหลาย และเพิ่มการทางเลือกในการรับประทานให้กับลูกค้า เรียกว่ามาที่อะคิโยชิที่เดียวครบเลย"
ทั้งนี้ปีที่ผ่านมาทาง "อาคิโยชิ" ทำได้ที่ 160 ล้านบาท ส่วนในปี 2562 นี้คาดหวังว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 220 ล้านบาท โดยในกลางปี 2562 นี้จะมีการเปิดสาขาใหม่ขึ้นที่ "จามจุรีสแควร์" ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ 7 โดยที่ขนาดร้านมีเนื้อที่ประมาณ 200 ตร.ม. เมนูต่างๆที่จะมีให้เลือกจะเหมือนกับทางต้นตำรับสาขาแรพระโขนงทั้งหมด"
ขณะเดียวกันในปีนี้ อะคิโยชิครบรอบ 24 ปี ทางร้านจึงถือโอกาสปรับปรุงสาขาพระโขนง ที่ถือได้ว่าเป็นสาขาแรกในประเทศไทยซึ่งการปรับปรุงครั้งนี้เพิ่งแล้วเสร็จในเดือนมกราคมที่ผ่านมา สำหรับการปรับปรุงร้านนอกจากจะปรับภาพลักษณ์ ทัศนียภาพให้ดูหรูหราตามแบบฉบับสไตล์ญี่ปุ่นแล้ว อีกประการหนึ่งคือเพื่อรองรับการขยายตัวของแหล่งสุดฮิตฮอตของเหล่านักชิมที่เริ่มขยายตัวออกมาจากแถบชิดลม เพลินจิต อโศกและทองหล่อซึ่งปัจจุบันได้ขยายวงกว้างถึงย่านอ่อนนุช และในปีนี้ทางอะคิโยชิก็ได้คัดสรรวัตถุดิบ ที่ดีที่สุดจากญี่ปุ่นมาให้คนไทยลิ้มลองกันมากขึ้น
