"6 แกนนำพันธมิตร" ... ต้องไม่ท้อ-ไม่สิ้นหวัง

13 ก.พ. 2562 | 09:06 น.
20190213144711932 (1)
จากกรณีที่ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) บุกทำเนียบรัฐบาล เมื่อปี 2551 หมายเลขดำ อ.4925/2555 โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน หรือ กลุ่มการเมืองสีเขียว และอดีตผู้ประสานงาน พธม. เป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุก โดยกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ โดยศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ 6 แกนนำ พธม. จำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญานั้น

นายประพันธุ์ คูณมี อดีตแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ได้สะท้อนมุมมองว่า คดีนี้ต้องเคารพดุลยพินิจศาล แม้ว่าเราจะไม่เห็นด้วยทั้งหมดก็ตาม แต่หากพิจารณาให้ถ่องแท้แล้ว จะเห็นว่า พวกจำเลยได้เข้าไปชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ 26 ส.ค. - 3 ธ.ค. 2551 รวม 99 วัน ถามว่าเป็นบุกรุกสถานที่ราชการหรือไม่ ก็คงปฏิเสธยาก มีทรัพย์สินราชการเสียหายบ้างไหม ศาลก็วินิจฉัยว่า "ย่อมมีบ้าง" อันเกิดจากการชุมนุมของคนหมู่มาก แต่มิได้ทำลายทรัพย์สินสำคัญของทางราชการ และศาลก็เข้าใจเหตุผลที่จำเลยทำ ทำไมจึงจำเป็นต้องชุมนุมกดดันรัฐบาลในขณะนั้นเช่นนี้ ทั้งยังเห็นว่า การชุมนุมของพันธมิตรก็เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทำให้เห็นถึงการทุจริตของนักการเมืองและความคิดที่มุ่งร้ายต่อสถาบัน


20190213144712159

ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ลดโทษลงให้จำคุกเพียง 8 เดือน เมื่อเทียบกับคดีอื่น ๆ เช่น หมิ่นประมาทผู้อื่น ศาลยังลงโทษแกนนำเสื้อแดงถึง 1 ปี โดยไม่รอลงอาญา เช่นนี้แล้วจึงควรมองเห็นถึงความเมตตากรุณาของศาลที่มีต่อจำเลย แม้ศาลฎีกาจะพิพากษายืนจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอการลงอาญา ก็คงมิต้องการให้เป็นเยี่ยงอย่างในการบุกรุกสถานที่ราชการโดยไม่มีความผิดใด ๆ

แม้ว่าการกระทำของจำเลยจะเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่นักการเมืองกระทำกับประเทศชาติก็ตาม อย่างไรก็ต้องขอบคุณศาลที่กรุณาลงโทษต่อจำเลยสถานเบา และต้องชื่นชมการทำหน้าที่ของทีมทนายความทุกคนในการทำหน้าที่ เพื่อปกป้องสิทธิของจำเลยจนถึงที่สุด ผ่านคดีนี้มาได้ขนาดนี้ ผมเคารพและยอมรับได้ครับ

อย่างไรก็ดี ผลของคดีนี้เมื่อถึงที่สุดแล้วยังเป็นโอกาสสำคัญที่จำเลยทุกคน สามารถขอพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันสำคัญของชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่กำลังจะมาถึงได้อีกด้วย จำเลยอาจจำคุกไม่ถึง 8 เดือน ก็เป็นได้ สุดแท้แต่พระมหากรุณาธิคุณ

นอกจากนี้ ผลแห่งคำพิพากษาคดีนี้ จำเลยย่อมนำไปเป็นเหตุยื่นคำร้องต่อศาลในคดีการชุมนุมหน้ารัฐสภาและที่สนามบิน เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัยได้อีกด้วย ว่า คดีอื่น ๆ ที่ฟ้องจำเลยและอยู่ในระหว่างการพิจารณานั้น เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีนี้ ซึ่งจะเป็นเหตุให้จำเลยหลุดพ้นคดีอื่นที่มีอัตราโทษหนักกว่านี้ได้อีกด้วย

ด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังกล่าว เราต้องไม่ท้อ ไม่สิ้นหวัง จงมีพลังและสติปัญญาต่อสู้ ฝ่าฟันเอาชนะอุปสรรคและปัญหาทั้งปวงไปได้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว