"ทษช." จ่อร้องศาล รธน. ขอทราบข้อกล่าวหา พร้อมยื่นหลักฐาน

13 ก.พ. 2562 | 07:33 น.
"ทษช." เตรียมร้องศาลรัฐธรรมนูญ ขอใช้สิทธิรับทราบข้อกล่าวหายุบพรรค พร้อมยื่นหลักฐาน ชี้! การสิ้นสุดของพรรคการเมืองจะมีต่อเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลออกมา

S__56401942
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 13 ก.พ. 2562 ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค และนายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน กรณีที่ กกต. มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ทษช. โดย ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ขณะนี้เราทราบว่าขั้นตอนอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่ คำร้องเราก็ยังไม่เห็น หากทราบรายละเอียดแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 15.00 น. จะได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอใช้สิทธิรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อชี้แจงพยานหลักฐาน เพราะขณะนี้ เรายังไม่รู้ว่า กตต. ร้อง หรือ ตัดสินเราด้วยเรื่องอะไร ข้อหาใด เรายัง งง ๆ ว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ดังนั้น จึงอยากขอใช้สิทธิในฐานะพรรคการเมือง

เมื่อถามว่า คำร้องที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นคำร้องเดียวกับที่ยื่นต่อ กกต. หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ความสิ้นสุดของพรรคการเมืองจะสิ้นสุดต่อเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสิ่งที่ กกต. กล่าวหา แต่การที่ กกต. ตั้งข้อกล่าวหา โดยที่พรรคไม่มีสิทธิแม้แต่รับทราบข้อกล่าวหา ไม่มีโอกาสแสดงข้อเท็จจริง พยานหลักฐานใด ๆ จึงถือว่า ชั้นสอบสวนเราไม่มีโอกาสเลย เมื่อตอนนี้เรื่องไปอยู่ในกระบวนการของศาล เพราะศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต. แล้ว ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะไปยื่นคำร้องขอความเมตตาต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีโอกาสได้รับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด เนื่องจากตอนนี้ พรรค ทษช. ถือเป็นคู่กรณีกับ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นคนกลางในการวินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม เราจะไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลเมตตา โดยยึดหลักนิติธรรม ที่สำคัญที่สุด ขอให้พรรค ทษช. มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหา อ้างพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่า เราไม่ได้กระทำผิด ทั้งนี้ วันนี้พรรค ทษช. มีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งสมาชิก ทั้งสาขา หลายฝ่ายสอบถามเข้ามาเรื่องความกังวลการจะสิ้นสุดสภาพของพรรคการเมือง จึงต้องขอความเมตตาต่อศาลรัฐธรรมนูญให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปโดยถูกต้อง และเที่ยงธรรมตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการยื่นพยานหลักฐานจะเป็นอย่างไรนั้น เราขอโอกาสเห็นข้อกล่าวหาก่อน เราจะได้รู้ประเด็นข้อกล่าวหาก่อน เวลานี้จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะยื่นพยานอย่างไร


S__56401940

"เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เพราะศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นองค์กรสูงสุดที่ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม เมื่อเราเป็นคู่กรณี ตามหลักนิติธรรม คู่กรณีควรมีโอกาสในการแก้ข้อกล่าวหา เราเสียใจที่ชั้นสอบสวนไม่มีโอกาสแม้แต่จะทราบข้อกล่าวหา ทุกอย่างมันรวดเร็วมาก และในวันที่ 15 ก.พ. นี้ กกต. จะมีการประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส. จึงตั้งข้อสังเกต ว่า กกต. คิดอะไร" นายพิชิต กล่าว

เมื่อถามถึงการเดินหน้าหาเสียงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ขณะนี้ทีมหาเสียงของเราที่แบ่งเป็น 7 ทีม ยังลงพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง และผู้ประสานของพรรคก็ประสานงานกับ ส.ส. โดยตลอด ส่วนแกนนำพรรคในส่วนกลางจะพิจารณาเรื่องการลงพื้นที่ในอาทิตย์หน้า เพราะอาทิตย์นี้รู้สึกว่า ทุกอย่างชุลมุนพอสมควร จึงต้องโฟกัสในเรื่องของคดี และการจัดการในส่วนกลางก่อน อาทิตย์หน้าคงชัดเจนว่าจะลงพื้นที่อย่างไร และพื้นที่ไหนบ้าง ทั้งนี้ ยืนยันว่า พรรคต้องเดินหน้าต่อ เพราะเราเป็นความหวังของผู้สมัครและประชาชน ซึ่งเราประกาศตัวชัดเจนว่า เราพร้อมลงสนามเลือกตั้ง และตั้งแต่มีพรรคมา เราก็ทำกิจกรรมมาตลอด โดยสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด ยืนยัน เราตั้งใจดี ไม่มีใครปรารถนาร้าย ขอยืนยันคำเดิมว่า เราบริสุทธิ์ใจ

เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหากพรรคถูกยุบหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่ามันคงเร็วเกินไปที่จะไปพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที ณ วันนี้ เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก และผู้สมัครว่า เรายังเดินหน้าต่อ เพราะความสิ้นสุดของพรรคการเมืองจะมีต่อเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลออกมา เราจึงต้องเป็นหลักให้สมาชิกและผู้ให้การสนับสนุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดแฮชแท็ก #saveไทยรักษาชาติ ขึ้นบนโลกโซเชียลด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว