วัดชีพจร "หุ้นกลุ่มประมูลไฮสปีด" !! ลุ้นผลปลายเดือนนี้ - BEM ทะยานแรงสุด
6 บริษัท ใน ตลท. ร่วมกลุ่มประมูลไฮสปีดเทรน ลุ้นผลปลายเดือน ก.พ. นี้ ตบเท้าราคาพุ่ง 3 ราย ... "BEM" แรงสุด ปรับขึ้นกว่า 19.54% โบรกชี้! จับตาแบ่งงานก่อสร้างหลังรู้ผล กลุ่มเสาเข็มรับอานิสงส์ตาม
"สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร" ... เมื่อการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ -อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. จำนวนเงินลงทุน 224,544 ล้านบาท ระหว่างกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (บจก.) และพันธมิตร ถึงแม้กิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร จะชนะการประมูล แต่การเจรจายังไม่จบ ยังสรุปผลชัดเจนไม่ได้ ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ก็ยังมีโอกาสลุ้นได้
สำหรับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ BTS, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ส่วนกิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร ประกอบด้วย บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง, บมจ.อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), China Railway Construction Corporation Limited (CRCC) (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบราคาหุ้นของบริษัทที่เข้าร่วมกลุ่มดังกล่าว 6 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่ก่อนวันยื่นซองประมูลจนถึงปัจจุบัน คือ วันที่ 9 พ.ย. 2561 - 11 ม.ค. 2562 พบว่า มี 3 บริษัทที่ราคาหุ้นปรับขึ้น โดย BEM ราคาเพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือ 19.54%, RATCH ราคาเพิ่มขึ้น 5.25 บาท หรือ 10.55% และ BTS ราคาเพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 6.41% ส่วนอีก 2 บริษัท ราคาหุ้นปรับลดลง คือ STEC ราคาลดลง 2.10 บาท หรือ 8.53% และ ITD ราคาลดลง 0.20 บาท หรือ 7.35% ด้าน CK ราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การเจรจาของกิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น ทำให้ยังไม่ปิดโอกาสของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ โดยราคาหุ้นบางตัวที่ปรับขึ้นลงนั้น มองว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะตัวมากกว่า เช่น BEM ที่ราคาปรับขึ้นสูง มาจากการต่ออายุสัมปทานและการยุติข้อพิพาทกับคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เกิดขึ้นได้จริง กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นบริษัทที่ร่วมทุนในกลุ่มใด อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการแบ่งงาน ว่า บริษัทใดจะได้มากน้อยแค่ไหน หรือ แบ่งในสัดส่วนที่เท่ากัน นอกจากนี้ กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ทางอ้อม คือ เสาเข็มเจาะ เช่น บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) และ บมจ.ไพลอน (PYLON) เพราะการก่อสร้างทางรถไฟเป็นทางเรียบต่างจากรถไฟรางธรรมดา จึงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มเจาะ ทำให้กลุ่มนี้ได้อานิสงส์ตาม
ด้าน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า แนวโน้มปี 2562 ยังเป็นปีที่ดีของ BEM ทั้งการเติบโตของกำไรปกติที่คาดอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากการเปิดส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2562 รวมถึงยังมีปัจจัยบวกจากการเข้าประมูลงานอีกมาก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประมาณการในอนาคต ขณะที่ ในระยะสั้นต้องจับตาการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะประกาศผลในปลายเดือน ก.พ. นี้
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,444 วันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2562
"สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร" ... เมื่อการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ -อู่ตะเภา) ระยะทาง 220 กม. จำนวนเงินลงทุน 224,544 ล้านบาท ระหว่างกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) และกิจการร่วมค้า บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (บจก.) และพันธมิตร ถึงแม้กิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร จะชนะการประมูล แต่การเจรจายังไม่จบ ยังสรุปผลชัดเจนไม่ได้ ดังนั้น กลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ก็ยังมีโอกาสลุ้นได้
สำหรับกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (BSR Joint Venture) ประกอบด้วย บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (บมจ.) หรือ BTS, บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) ส่วนกิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร ประกอบด้วย บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง, บมจ.อิตาเลียน-ไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD), China Railway Construction Corporation Limited (CRCC) (สาธารณรัฐประชาชนจีน), บมจ.ช.การช่าง (CK) และ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM)
"ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบราคาหุ้นของบริษัทที่เข้าร่วมกลุ่มดังกล่าว 6 บริษัท ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตั้งแต่ก่อนวันยื่นซองประมูลจนถึงปัจจุบัน คือ วันที่ 9 พ.ย. 2561 - 11 ม.ค. 2562 พบว่า มี 3 บริษัทที่ราคาหุ้นปรับขึ้น โดย BEM ราคาเพิ่มขึ้น 1.70 บาท หรือ 19.54%, RATCH ราคาเพิ่มขึ้น 5.25 บาท หรือ 10.55% และ BTS ราคาเพิ่มขึ้น 0.60 บาท หรือ 6.41% ส่วนอีก 2 บริษัท ราคาหุ้นปรับลดลง คือ STEC ราคาลดลง 2.10 บาท หรือ 8.53% และ ITD ราคาลดลง 0.20 บาท หรือ 7.35% ด้าน CK ราคาหุ้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายประสิทธิ์ รัตนกิจกมล ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด เปิดเผยว่า การเจรจาของกิจการร่วมค้า บจก.เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง และพันธมิตร ที่ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น ทำให้ยังไม่ปิดโอกาสของกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ โดยราคาหุ้นบางตัวที่ปรับขึ้นลงนั้น มองว่า ขึ้นอยู่กับปัจจัยเฉพาะตัวมากกว่า เช่น BEM ที่ราคาปรับขึ้นสูง มาจากการต่ออายุสัมปทานและการยุติข้อพิพาทกับคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหากโครงการไฮสปีดเทรนเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เกิดขึ้นได้จริง กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุด คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็นบริษัทที่ร่วมทุนในกลุ่มใด อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับการแบ่งงาน ว่า บริษัทใดจะได้มากน้อยแค่ไหน หรือ แบ่งในสัดส่วนที่เท่ากัน นอกจากนี้ กลุ่มที่จะได้รับประโยชน์ทางอ้อม คือ เสาเข็มเจาะ เช่น บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO) และ บมจ.ไพลอน (PYLON) เพราะการก่อสร้างทางรถไฟเป็นทางเรียบต่างจากรถไฟรางธรรมดา จึงจำเป็นต้องใช้เสาเข็มเจาะ ทำให้กลุ่มนี้ได้อานิสงส์ตาม
ด้าน นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า แนวโน้มปี 2562 ยังเป็นปีที่ดีของ BEM ทั้งการเติบโตของกำไรปกติที่คาดอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท โดยมีแรงหนุนจากการเปิดส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2562 รวมถึงยังมีปัจจัยบวกจากการเข้าประมูลงานอีกมาก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประมาณการในอนาคต ขณะที่ ในระยะสั้นต้องจับตาการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่จะประกาศผลในปลายเดือน ก.พ. นี้
หน้า 17-18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,444 วันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2562
