ยกเลิกคว่ำบาตร? ‘ทรัมป์’โปรยยาหอมเกาหลีเหนือ มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ

13 ก.พ. 2562 | 09:11 น.
การพบปะครั้งที่ 2 ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ที่เมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม หลังจากที่ทั้งคู่เคยพบกันครั้งแรกบนเกาะเซนโตซา ประเทศสิงคโปร์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ซึ่งการพบกันครั้งนั้นถือว่าทำให้บรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือที่มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์กันมายาวนาน พลิกผันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ถ้ายังจำกันได้ในช่วงเวลานั้น หลังการประชุมหารือกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยประนาม นายคิม จอง อึน ว่าเป็น “ลูกหมาป่วย” (หลังจากที่คิมขนานนามเขาว่าเป็น “หมาบ้า”) และจะต้องทำลายเกาหลีเหนือให้สิ้นซาก ก็กลับจูบปากผูกมิตรกับอดีตศัตรูอย่างที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน ประธานาธิบดีคิม จอง อึน กลายเป็นบุคคลมีความสามารถ น่าชื่นชมรักใคร่ ในสายตาประธานาธิบดีทรัมป์ภายในชั่วข้ามคืน และล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาระบุว่า สักวันหนึ่ง เกาหลีเหนืออาจจะกลายเป็น “มหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่” ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคิม จอง อึน

ทรัมป์กล่าวถึงผลงานของผู้นำเกาหลีเหนือที่ทำให้เขามีความเชื่อในทางบวกว่า ทิศทางที่กำลังมุ่งไปข้างหน้าน่าจะยิ่งสะดวกราบรื่นมากขึ้น เพราะหลังจากการพบกันครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา เขามองว่าสิ่งที่เกาหลีเหนือกระทำก็คือ การปล่อยตัวชาวอเมริกันที่ถูกจับกุมให้ได้กลับบ้าน การทดสอบนิวเคลียร์ก็ยุติ ลงแล้ว และฝ่ายเกาหลีเหนือก็ไม่มีการยิงขีปนาวุธมานานกว่า 15 เดือน นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯยังระบุว่า ความสัมพันธ์ของเขาและคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ “เป็นความสัมพันธ์ที่ดี” อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า การยุติทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือนั้นอาจเป็นเรื่องชั่วคราว ตราบใดที่สหรัฐฯยังไม่ยกเลิกมาตรการควํ่าบาตรทางเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนือ อะไรๆ ก็อาจกลับมาคุกรุ่นได้เหมือนเดิม เนื่องจากสิ่งที่เกาหลีเหนือต้องการมากที่สุดนั้น คือมาตรการรับประกันจากสหรัฐฯว่า ต่อจากนี้ไปเกาหลีเหนือจะปลอดภัยและมีความมั่นคง (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้หากสหรัฐฯยังร่วมซ้อมรบกับเกาหลีใต้อยู่เป็นประจำ) และที่สำคัญคือ สหรัฐฯจะต้องยกเลิกมาตรการควํ่าบาตรที่มีต่อเกาหลีเหนือ

TP12-3444-1 ในข้อความทวิตเตอร์ส่วนตัวของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีออกมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาระบุว่า ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคิม จอง อึน นั้น เกาหลีเหนือจะกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ และจะเปลี่ยนสถานะจากประเทศที่แข็งแกร่งด้วยขีปนาวุธทำลายล้าง เป็นการติดขีปนาวุธทางเศรษฐกิจ แทน หลายคนอาจไม่เชื่อว่าเป็นไปได้ แต่ เขาเชื่อและจะไม่รู้สึกแปลกใจเลย เพราะเขา ได้รู้จักและเข้าใจถ่องแท้แล้วว่าประธานาธิบดี คิมนั้นมีความสามารถเพียงใด

ท่าทางเชิงบวกอย่างสุดโต่งของประธานาธิบดีทรัมป์ในครั้งนี้ อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า สหรัฐฯเองก็พร้อมยื่นรางวัลให้เกาหลี เหนือเป็นการตอบแทนเช่นกัน หากเกาหลีเหนือจริงจังกับการยุติการทดลองและปลดอาวุธนิวเคลียร์ สหรัฐฯก็พร้อมยกเลิกมาตรการควํ่าบาตรและดันเกาหลี เหนือให้เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างที่เขาพยากรณ์ไว้ การเดินหมากของสหรัฐฯครั้งนี้ ยังส่งสัญญาณไปถึงจีน ซึ่งมีบทบาทเสมือนพี่ใหญ่ของเกาหลีเหนือกลายๆว่า สหรัฐฯกำลังจะเข้ามายึดบทบาทนี้แทน และจีนเองก็ควรเร่งหาทางจบดีล การค้ากับสหรัฐฯให้ได้อย่างสวยๆ เช่นกันก่อนที่ระยะเวลาสงบศึกการค้าชั่วคราว 90 วัน (นับจากวันที่ 1 ธันวาคม 2561) จะสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มีนาคมที่กำลังจะมาถึง

หน้า 12 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ปีที่ 39 ฉบับ 3,444 วันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2562

ติดตามฐาน