ฐานโซไซตี : “ทักษิณ-ประยุทธ์” คู่ต่อกรหลัก การเมืองไทย

เพราะทุก “คะแนน” มีความหมาย “ไม่ตกน้ำ” ทำให้ยอดผู้สมัครส.ส.ระบบเขต ในการเลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคมนี้ มียอดผู้สมัครทั่วประเทศ แบบแบ่งเขต 11,128 คน จาก 80 พรรค แบบปาร์ตี้ลิสต์ 72 พรรค 2,718 คน เสนอบัญชีนายกฯ รวม 52 ชื่อ  นับว่าสูงกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ปี 2554 กว่า 3-4 เท่าตัว

ในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้ ปรากฏการณ์หนึ่งที่เป็นที่ “ฮือฮา” คือ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.เขต ของ พรรคเพื่อชาติ ในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 15 คน พากันเปลี่ยนชื่อก่อนยื่นสมัคร ชื่อที่นิยมเปลี่ยนกัน หากเป็น “ชาย” ก็เปลี่ยนชื่อเป็น “ทักษิณ” ผู้สมัครหญิงก็เปลี่ยนชื่อเป็น “ยิ่งลักษณ์” หรือ“ยิ่งรัก” ซึ่งผู้สมัครเหล่านี้ ต้องเลียนแบบมาจากชื่อของ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ และ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯ 2 พี่น้อง ที่หลบลี้หนีโทษจำคุกไปอยู่ต่างประเทศ

อารี ไกรนรา รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ออกมาบอกว่า ที่มีการเปลี่ยนชื่อ เพราะต้องการให้เป็นที่จดจำได้ง่าย มีความชื่นชอบ ทักษิณ และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวมทั้งเป็นกลยุทธ์ ให้เข้ากับรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีข้อจำกัดการหาเสียงจำนวนมาก

แต่ “พฤติกรรม” เหล่านี้ กลับถูกสังคมมองในทำนอง “เย้ยหยัน” การยอม “เปลี่ยนชื่อ” เพียงแค่ให้เป็นที่จดจำของประชาชน ทำตัวเป็นเพียง “สินค้าทางการเมือง” ไม่มีแก่นสารในตัวเอง ยอมเป็นเพียงร่างทรงให้บุคคลอื่น แล้วจะคาดหวังให้เป็น “ผู้แทน” เพื่อเข้าไปปกป้องประโยชน์ของประชาชนในอนาคตได้อย่างไร?

[caption id="attachment_387432" align="aligncenter" width="500"] [/caption]

หันไป “ส่อง” ดูผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ของแต่ละพรรคการเมือง โฟกัสไปที่พรรค “เพื่อไทย” ส่งครบทั้ง 3 ชื่อตามที่กฎหมายกำหนด ประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ และ ชัยเกษม นิติสิริ ขณะที่พรรคเก่าแก่อย่าง “ประชาธิปัตย์” ส่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพียงหนึ่งเดียวอยู่บัญชีนายกฯ โดยไม่มีใครมาเป็นตัวสำรองนายกฯ แต่อย่างใด ส่วนพรรคน้องใหม่มาแรงอย่าง “พลังประชารัฐ” มี บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็น “หัวหมู่ทะลวงฟัน” เข้าแข่งขันหวังยึดครอง “เก้าอี้นายกฯ” ที่เคยนั่งมาแล้ว ไว้อีกสมัย

คู่ต่อสู้หลักในสนามการเมืองไทย จัดเป็นการช่วงชิงอำนาจกันระหว่างคน 2 ฝ่าย เท่านั้น คือ “ทักษิณ” กับ “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์” ส่วน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ถูกจัดเป็นคู่ “ต่อกร” กับใคร แต่ ประชาธิปัตย์ จะเป็นพรรคที่มีความสำคัญมาก เพราะหากเลือกตั้งได้จำนวนที่นั่งเข้ามาเป็นอันดับ 2 เวลาจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล “ประชาธิปัตย์” สวิงไปทางฝ่ายไหน ฝ่ายนั้นก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ หรือ “ประชาธิปัตย์” อาจจะต่อรองขอเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลก็ได้... แต่ในที่สุดแล้วใคร ฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายได้ไปต่อ ในฐานะ “ผู้บริหารประเทศ” หลังวันที่ 24 มีนาคม ได้รู้กัน...

ขึ้นชื่อว่า “เสี่ยหนู” นายทุนใหญ่ของ “ภูมิใจไทย” ทุนหนา แต่เหตุไฉนมีเสียงบ่นมาจาก “ลูกพรรค” ผู้สมัคร ส.ส.บางจังหวัด บ่นกระปอดกระแปดว่า สมัครก็สมัครแล้ว ป้ายก็ทำแล้ว รถหาเสียงก็จ้างไว้ ลงทุนไปหลายตังค์แล้ว แต่จนป่านนี้ “เงิน”ยังไม่จ่ายสักที ตอนไปเปิดตัวผู้สมัครที่จ.บุรีรัมย์ ก็คิดว่าจะได้ทุน ก็เงียบ ล่าสุดนัดให้มารับเงินในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ก็มีอันต้องเลื่อนไปอีก... เห็นว่าลูกพรรคต้องเอามือก่ายหน้าผากกันเลยทีเดียว หัวคะแนนก็มาเต็มบ้านกันทุกวัน... เอ๊า เท็จจริงประการใดไม่ทราบได้ แต่ได้ยินมาจากผู้สมัครส.ส. จริงๆ

สุริยน ศรีอรทัยกุล ประธานคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดงาน“อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ แบรนด์ เมด อิน ไทยแลนด์ แอท ไอคอนสยาม” (Amazing THAILAND Brand Made in Thailand at ICONSIAM) แสดงสุดยอดผลงานมาสเตอร์พีซ กับการนำเสนอ 9 อัตลักษณ์อุตสาหกรรม ในกลุ่มคลัสเตอร์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ พร้อมบอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทยในรูปแบบไทยสู่สากล ในวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 13.00 น. ณ ลานเจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M ไอคอนสยาม โดยงานจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 กุมภาพันธ์ - 23 มีนาคมนี้ เวลา 10.00-22.00 น. ณ รูม 125 ชั้น 1 ไอคอนสยาม

| คอลัมน์ : ฐานโซไซตี 
| โดย : ว.เชิงดอย
| หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3443 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 10-13 ก.พ.2562