การเจรจาการค้ารอบใหม่ หนุนราคาน้ำมันดิบเบรนท์

11 ก.พ. 2562 | 05:04 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 11 กุมภาพันธ์ 2562

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ รอบใหม่ โดยทำเนียบขาวแถลงการณ์ว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะจัดการเจรจาการค้ารอบใหม่ที่กรุงปักกิ่ง ในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนวันที่ 1 มี.ค. 62 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดที่มาตรการภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ โดยสหรัฐฯ ก็จะเดินหน้าเพิ่มการเรียกเก็บภาษีนำเข้าต่อสินค้าจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากร้อยละ 10 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 25

+ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบ ยังได้รับแรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปก โดยผลการสำรวจรอยเตอร์พบว่า การผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกในเดือน ม.ค. ปรับตัวลดลง 890,000 บาร์เรลต่อวัน จากเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 30.98 ล้านบาร์เรลต่อวัน

+ แหล่งผลิตน้ำมันดิบ El Sharara ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในลิเบีย ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ยังคงปิดดำเนินการเนื่องจากบางพื้นที่ยังคงถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏติดอาวุธ

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสองครั้งในรอบสามสัปดาห์ โดย Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ก.พ. 62 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 แท่น มาอยู่ที่ 854 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังโลกที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ขณะที่อุปสงค์ยังคงซบเซาในช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปทานที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมันในภูมิภาค

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 51-56 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 59-64  เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

การตกลงปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบราว 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันของผู้ผลิตทั้งในและนอกกลุ่มโอเปกมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันดิบตึงตัวขึ้น โดยล่าสุด ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลงเพิ่มเติมอีกราว 100,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับการผลิตในเดือนม.ค. 62 สู่ระดับ 10.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นการปรับลดมากกว่าที่ได้ตกลงไว้

จับตาการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาโดยสหรัฐฯ เพื่อกดดันให้รัฐบาลมาดูโรออกจากตำแหน่ง โดยการคว่ำบาตรนี้อาจส่งผลให้เวเนซุเอลาต้องเปลี่ยนทิศทางการส่งออกน้ำมันดิบราว 500,000 บาร์เรลต่อวันไปยังประเทศอื่นๆแทนสหรัฐฯ

จับตาความคืบหน้าการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก่อนถึงเส้นตายในเดือน มี.ค. 62 ซึ่งหากสหรัฐฯ และจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ก่อนกำหนดดังกล่าว จะส่งผลให้สหรัฐฯ อาจเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่ารวม 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากร้อยละ 10 เป็นร้อยละ 25 และคาดว่าจีนจะทำการตอบโต้คืนโดยการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเช่นเดียวกัน

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์ 090861-1927-9-335x503-8-335x503-13-335x503