ธนาคารกรุงไทย ระบุ ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ (11 ก.พ.) ที่ระดับ 31.32 บาทต่อดอลลาร์ สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นจากช่วงปิดสิ้นสัปดาห์ก่อนที่ระดับ 31.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
ในสัปดาห์นี้แนะนำจับตาการให้ความเห็นของเฟด ความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และความพยายามที่จะหาข้อสรุปเรื่องงบประมาณในการสร้างกำแพงของทรัมป์
วันพุธ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ (CPI) คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น 1.48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ค่าขนส่งในสหรัฐฯ ปรับตัวลงตาม ขณะที่ เงินเฟ้อพื้นฐานจะขยายตัวได้ในระดับ 2.00%
วันพฤหัสบดี รายงานจีดีพีในญี่ปุ่นไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะขยายตัว 1.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ปรับเป็นรายปี) โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนที่หดตัวถึง 2.5% เนื่องจากการส่งออกชะลอตัวตามภาพสงครามการค้า
และวันศุกร์นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่ข้อตกลงงบประมาณชั่วคราวของรัฐบาลสหรัฐฯ จะหมดลง ซึ่งถ้าไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องงบประมาณสำหรับการสร้างกำแพงกั้นระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโกได้ อาจส่งผลให้ที่ทำการของภาครัฐในสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลงอีกครั้ง
สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด จะสามารถให้ความเห็นเกี่ยวกับผลการประชุมล่าสุดได้ มองว่า คณะกรรมการส่วนใหญ่จะแสดงความกังวลกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้นตามผลการประชุมล่าสุด จึงอาจส่งผลกดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อไป
ฝั่งเงินบาท ปลายสัปดาห์ที่เงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว ชี้ว่า การเมืองมีความผันผวนและกระทบความเชื่อมั่นในระยะสั้น แม้สัปดาห์นี้จะสงบลงบ้าง แต่เชื่อว่า นักลงทุนจะระมัดระวังตัว และอาจยังไม่กลับเข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบกว้างตามความผันผวนที่ทรงตัวในระดับสูง
วันนี้กรอบเงินบาท 31.27 ถึง 31.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ และกรอบเงินบาทรอบสัปดาห์ 31.10 ถึง 31.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ