“ไพบูลย์”จี้“ไทยรักษาชาติ”แสดงความรับผิดชอบ
“ไพบูลย์”จี้ “ไทยรักษาชาติ” แสดงความรับผิดชอบ คาดจันทร์นี้ กกต.มีความชัดเจนปมหาเสียงขัดระเบียบ
นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปประเทศ (ปชช.) ได้ออกมาเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กรณีเสนอรายชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และในทางการเมืองเชื่อว่าประชาชนคงตัดสินใจได้
นายไพบูลย์ ยังคาดว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) น่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในเรื่องนี้
“ส่วนตัวจะไม่ดำเนินการยื่นคำร้องใดๆ อีก เพราะเรื่องที่ยื่นร้องไปมีความชัดเจนแล้วว่า พรรคไทยรักษาชาติกระทำการโดยนำสถาบัน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่ง “ไทยรักษาชาติ” ควรต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง”
มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการประชุมกัน เรื่องที่ถูกจับตา คือ สำนักงานกกต.จะเสนอคำร้องของนายไพบูลย์ เป็นวาระพิจารณาหรือไม่
ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ ได้ร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบการกระทำของ พรรคไทยรักษาชาติ โดยอ้างอิงถึงระเบียบว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ที่ระบุว่า “ห้ามไม่ให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”
ขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หมวด 8 การสิ้นสุดของพรรคการเมือง มาตรา 92 ระบุความว่า "เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(1) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ
(2) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
นายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปประเทศ (ปชช.) ได้ออกมาเรียกร้องหาความรับผิดชอบจากพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) กรณีเสนอรายชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายขัดต่อระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และในทางการเมืองเชื่อว่าประชาชนคงตัดสินใจได้
นายไพบูลย์ ยังคาดว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) น่าจะมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในเรื่องนี้
“ส่วนตัวจะไม่ดำเนินการยื่นคำร้องใดๆ อีก เพราะเรื่องที่ยื่นร้องไปมีความชัดเจนแล้วว่า พรรคไทยรักษาชาติกระทำการโดยนำสถาบัน เข้ามาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่ง “ไทยรักษาชาติ” ควรต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง”
มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการประชุมกัน เรื่องที่ถูกจับตา คือ สำนักงานกกต.จะเสนอคำร้องของนายไพบูลย์ เป็นวาระพิจารณาหรือไม่
ก่อนหน้านี้ นายไพบูลย์ ได้ร้องขอให้ กกต.ตรวจสอบการกระทำของ พรรคไทยรักษาชาติ โดยอ้างอิงถึงระเบียบว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้ง หมวด 4 ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ข้อ 17 ที่ระบุว่า “ห้ามไม่ให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง”
ขณะที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 หมวด 8 การสิ้นสุดของพรรคการเมือง มาตรา 92 ระบุความว่า "เมื่อ กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการ อย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(1) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ ในรัฐธรรมนูญ
(2) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
