ประชาธิปัตย์ปราศรัยใหญ่ ขายนโยบาย“แก้จน สร้างคน สร้างชาติ”
ประชาธิปัตย์ปราศรัยใหญ่ ขายนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ลั่น ไม่เลือกปฏิบัติเหมือนทักษิณ
เมื่อค่ำวันที่ 8 ก.พ.2562 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นจุดเริ่มต้นในการประกาศความพร้อมเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศในการเลือกตั้งปี 2562
โดยบรรยากาศในเวทีโชว์วิสัยทัศน์และนโยบาย “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” โดยเริ่มจาก การเปิดเวทีของรองหัวหน้าพรรค ทั้ง 4 ภาคที่ปราศรัยเป็นภาษาท้องถิ่น ประกอบด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู นายอิสสระ สมชัยและนายชินวรณ์ บุญเกียรติ ตามด้วย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมกับเปิดตัวทีมผู้สมัครคนรุ่นใหม่ New dem ของพรรค โดยมีการถ่ายทอดสดไป 4 ภูมิภาค คือ เชียงใหม่ สงขลา ขอนแก่น นครราชสีมา ชลบุรี
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีปราศรัยโดยเล่าประวัติของตัวเองในอดีตกว่าจะมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมา 15 สมัย ตั้งแต่ 10 ก.พ. 2512 จนจะครบ 50 ปี ของการเป็นส.ส.สมัยแรก ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ โดยตลอดเส้นทางของการเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตย และยึดความถูกต้อง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่อดีต ทำเพื่อประชาชน และหลายโครงการที่ยังอยู่ในปัจจุบันเกิดขึ้นจากสมัยที่ตนเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการนมโรงเรียน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ทำให้เด็กไทยมีโอกาส ทางการศึกษา และยังย้ำถึงเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มทำก่อนเป็นพรรคแรกตั้งแต่ให้เดือนละ 200 บาทจนตอนนี้ 600 บาทในรัฐบาลนี้ และในครั้งนี้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะให้เบี้ยผู้สูงอายุทุกคน เดือนละ 1,000 บาท ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สานต่อนโยบายที่พรรคทำไว้ โดยที่พรรคจะไม่เลือกปฏิบัติกับประชาชน
“ผมโชคดีที่มาอยู่พรรคนี้เพราะพรรคนี้ เขาไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งความไม่เลือกปฏิบัติทำให้เราอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเราเป็นรัฐบาลเราไปไหนก็จะปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ผมจะไปบอกชาวใต้ว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเขาแกล้งท่านอย่างไร เช่น การซ่อมถนนในภาคใต้ ที่ไม่ยอมซ่อมแซมให้”นายชวน กล่าวและว่าประชาธิปัตย์จะเปิดเวทีที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 9 ก.พ.นี้
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยในตอนหนึ่งว่า โดยเล่าย้อนอดีตเช่นกันว่าประเทศไทยเผชิญกับการเมืองที่ล้มเหลว ใช้อำนาจไม่ชอบ พยายามรับรองการทุจริต ประชาชนไม่ยอมจนเกิดการชุมนุม นำสู่สถานการณ์บานปลาย สุดท้ายเกิดรัฐประหาร ซึ่งคณะรัฐประหารใช้เวลาจัดทำรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกเป็นเวลาเกือบห้าปีเต็ม ระหว่างทางมีความไม่แน่นอนและความหวั่นไหว ทั้งเรื่องยุบพรรคหรือไม่ การสร้างกติกามากมายจนเกิดคำถามว่าพรรคจะดำเนินการได้หรือไม่
“กระบวนการเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้นแล้ว มายืนตรงนี้เพราะพรรคพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน และจากวันนี้ถึง 24 มี.ค. เชื่อว่าหลายพรรคจะพูดนโยบายเหมือนกับประชาธิปัตย์ แต่จะเสนอบางอย่างให้หวือหวามากกว่า ซึ่งคิดว่านโยบายใครก็พูดได้ แต่ไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ เพราะหากไม่มีใจที่จะทำ ก็ไม่เกิดโครงการต่างๆ ประชาธิปัตย์จึงเสนอนโยบายด้วยความรับผิดชอบ อีก 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี พรรคเราก็จะยังคงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป”
เมื่อค่ำวันที่ 8 ก.พ.2562 ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2554 เป็นจุดเริ่มต้นในการประกาศความพร้อมเดินหน้าหาเสียงทั่วประเทศในการเลือกตั้งปี 2562
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีปราศรัยโดยเล่าประวัติของตัวเองในอดีตกว่าจะมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมา 15 สมัย ตั้งแต่ 10 ก.พ. 2512 จนจะครบ 50 ปี ของการเป็นส.ส.สมัยแรก ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้ โดยตลอดเส้นทางของการเป็นนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้ต่อสู้ในแนวทางประชาธิปไตย และยึดความถูกต้อง นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่อดีต ทำเพื่อประชาชน และหลายโครงการที่ยังอยู่ในปัจจุบันเกิดขึ้นจากสมัยที่ตนเป็นนายกฯ ไม่ว่าจะเป็นโครงการนมโรงเรียน กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ที่ทำให้เด็กไทยมีโอกาส ทางการศึกษา และยังย้ำถึงเรื่องเบี้ยผู้สูงอายุที่พรรคประชาธิปัตย์ริเริ่มทำก่อนเป็นพรรคแรกตั้งแต่ให้เดือนละ 200 บาทจนตอนนี้ 600 บาทในรัฐบาลนี้ และในครั้งนี้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะให้เบี้ยผู้สูงอายุทุกคน เดือนละ 1,000 บาท ดังนั้นเลือกตั้งครั้งนี้ขอให้ประชาธิปัตย์ชนะเลือกตั้ง เพื่อให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้สานต่อนโยบายที่พรรคทำไว้ โดยที่พรรคจะไม่เลือกปฏิบัติกับประชาชน
“ผมโชคดีที่มาอยู่พรรคนี้เพราะพรรคนี้ เขาไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งความไม่เลือกปฏิบัติทำให้เราอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเราเป็นรัฐบาลเราไปไหนก็จะปฏิบัติที่เท่าเทียมกัน ผมจะไปบอกชาวใต้ว่าสมัยนายทักษิณ ชินวัตร และสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าเขาแกล้งท่านอย่างไร เช่น การซ่อมถนนในภาคใต้ ที่ไม่ยอมซ่อมแซมให้”นายชวน กล่าวและว่าประชาธิปัตย์จะเปิดเวทีที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราชในวันที่ 9 ก.พ.นี้
“กระบวนการเลือกตั้งเริ่มต้นขึ้นแล้ว มายืนตรงนี้เพราะพรรคพร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน และจากวันนี้ถึง 24 มี.ค. เชื่อว่าหลายพรรคจะพูดนโยบายเหมือนกับประชาธิปัตย์ แต่จะเสนอบางอย่างให้หวือหวามากกว่า ซึ่งคิดว่านโยบายใครก็พูดได้ แต่ไม่ใช่ว่าใครจะทำก็ได้ เพราะหากไม่มีใจที่จะทำ ก็ไม่เกิดโครงการต่างๆ ประชาธิปัตย์จึงเสนอนโยบายด้วยความรับผิดชอบ อีก 10 ปี 20 ปี หรือ 30 ปี พรรคเราก็จะยังคงอยู่คู่สังคมไทยต่อไป”
